“รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง” ขออภัยคนภูเก็ตทำเดือดร้อน เหตุเจ้าหน้าที่เข้มงวดรักษาความปลอดภัยประชุมผู้นำอาเซียน อ้างจำเป็นเพื่อภาพลักษณ์ประเทศ เตรียมนำปัญหามาปรับแก้ หวังใช้เตรียมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ตุลาคมครั้งต่อไป
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชาวบ้าน จ.ภูเก็ต ทะเลาะกับทหารที่มีการตรวจค้นอย่างเข้มงวด และสติ๊กเกอร์ผ่านเข้าออกไม่เพียงพอว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เวลาทำงานกับคนหมู่มากต้องมีปัญหาบ้าง ซึ่งได้สั่งการให้แก้ไขแล้ว เชื่อว่าปัญหาจะเกิดไม่นาน และต้องทำความเข้าใจต่อประชาชน และต้องปรับปรุงแผนให้กระชับมากขึ้น กำหนดเส้นทางที่ประชาชนหลีกเลี่ยงหรือสามารถเดินทางได้ หากประชาชนจำเป็นต้องผ่านเส้นทางนั้นจริงๆ ก็จำเป็นต้องทำสติกเกอร์หรือจดทะเบียนให้เรียบร้อย บังเอิญว่าการเตรียมการจัดการประชุมครั้งนี้มีเวลาน้อยไปหน่อย จึงอาจมีปัญหาบ้างในการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งก็ต้องขออภัยประชาชนใน จ.ภูเก็ต ที่อาจได้รับผลกระทบบ้าง ทั้งนี้จะนำปัญหาเหล่านี้มาเป็นพื้นฐานในการเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในช่วงเดือน ต.ค.ต่อไป
นายสุเทพกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่ากังวลใจในเรื่องความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุมและต้องการให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยที่สุด ส่วนที่ประชาชนต่อว่าการกำหนดพื้นที่ควบคุมโดยรอบรัศมี 5 กม.กว้างเกินไป ทำให้ประชาชนเดือดร้อน นายสุเทพกล่าวว่า มันเป็นเรื่องจำเป็น เพราะไม่อยากเห็นภาพความวุ่นวายเกิดขึ้นกับสายตาของรัฐมนตรีมาประชุมและสื่อมวลชนที่มาเป็นพันคนจากทั่วโลก และต้องการป้องกันภาพลักษณ์ของประเทศไทย ถ้าภาพวุ่นวายออกไปจะส่งผลกระทบต่อการเตรียมการประชุมในเดือนตุลาคมด้วย เมื่อถามว่า บางครั้งการประชุมใหญ่ๆ แล้วมีการชุมนุมเกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่ง นายสุเทพกล่าวว่า บางครั้งสีสันมันมากเกินไป จึงอยากขอร้องว่าอย่าไปเลย ค่อยไปประท้วงวันอื่นก็ได้ เพราะมีเวลาตั้ง 365 วัน ไม่ต้องมาประท้วงวันที่แขกบ้านแขกเมืองเขามาประชุมบ้านเรา
เมื่อถามว่า ทางการข่าวมีการรายงานว่าสถานการณ์เรียบร้อยดีหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เราก็ติดตามอยู่ตลอดเวลาและพบว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่บ้าง แต่เราก็ได้กำหนดมาตรการที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมตนจะมีการประชุมเพื่อสรุปและประเมินผลการทำงานว่าตรงไหนเข้มงวดมากเกินไป หรือตรงไหนอ่อนเกินไป เพื่อนำมาใช้ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือน ต.ค. ที่จะจัดที่ จ.ภูเก็ตที่เดิม