กกต.นัดลงมติชี้สถานภาพ 28 ส.ส.พรรค ปชป.กรณีถือครองหุ้นสัมปทานรัฐ รวมทั้งชี้คุณสมบัติ รมว.ต่างประเทศ กรณีคู่สมรสถือคอรงหุ้นบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ เช่นเดียวกัน
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการประชุม กกต.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาลงมติในประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ การพิจารณากรณีที่ 28 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ถือครองหุ้นในกิจการสื่อและบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้ความเป็นสมาชิกภาพของการเป็น ส.ส.สิ้นสุดลง ตามคำร้องของนายศุภชัย ใจสมุทร ภายหลังที่ กกต.มีมติให้เลื่อนการวินิจฉัยออกมา 2 วัน เนื่องจากต้องการให้เลขานุการคณะกรรมการไต่สวนไปจัดทำรายละเอียดเพื่อแยกหมวดหมู่ก่อนว่า ส.ส.กลุ่มใดถือหุ้นที่เข้าลักษณะต้องห้าม และ ส.ส.กลุ่มใดที่ถือหุ้นที่ไม่เข้าลักษณะต้องห้าม รวมทั้งมี ส.ส.กลุ่มใดบ้างที่ถือครองหุ้นกู้ด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการพิจารณากรณี 16 ส.ว.ที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม กกต.ได้ยืนยันไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ยังไม่จำเป็นต้องยืนตามความเห็นของคณะอนุกรรมการ แม้ความเห็นของคณะอนุกรรมการจะมีมติให้ยกคำร้องแค่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ตาม
ส่วนกรณีการวินิจฉัยคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ที่ให้ กกต.ตรวจสอบความเป็นสมาชิกภาพของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่อาจสิ้นสุด ความเป็นรัฐมนตรีลง เนื่องจากภรรยาของนายกษิตถือครองหุ้นของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด จะมีการพิจารณาในวันเดียวกันนี้ด้วย
