“เทพไท” แฉ “นช.แม้ว” หนีหัวซุกหัวซุนทิ้งหลักฐานเรี่ยราดกลางห้องพักโรงแรมดังในมาเลย์ หลังรัฐบาลมาเลย์แจ้งเบาะแสรัฐบาลไทยประสานจับกุม พร้อมจี้ กบว.ใช้กฎเหล็กคุมวิทยุชุมชนสกัดโฟนอินปั่นหัวแก๊งแดงถ่อย เหน็บอย่าทะนงตัวว่าสำคัญจนนานาประเทศต้องแลกศักดิ์ศรีกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
วันนี้ (14 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการวิทยุชุมชนคนรักอุดรฯ เพื่อจัดรายการในทุกวันจันทร์ โดยมีเนื้อหาพาดพิงมาถึงรัฐบาลในหลายเรื่อง ซึ่งเป็นข้อมูลในลักษณะที่บิดเบือนและข้อกล่าวหาที่ซ้ำซากเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง เช่นกล่าวหาว่ารัฐบาลกู้เงินโดยไม่มีแผนการใช้จ่าย ขึ้นภาษีแก้ปัญหาโดยการใช้เครื่องคิดเลข ไม่ได้ใช้สมองคิด ตนขอชี้แจงว่ารัฐบาลชุดนี้ได้ใช้ความคิดอย่างรอบคอบในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ใช้ทั้งสมองคิดแก้ปัญหาของประชาชนตลอดเวลา ไม่เหมือนยุค พ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่อาจใช้เครื่องคิดเลขคิด แต่กลับใช้สมองกับคอมพิวเตอร์คิด จึงทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนทุจริตเชิงนโยบายอย่างมโหฬาร
“รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องกู้ในภาวะที่เศรษฐกิจวิกฤตทั่วโลก แต่การใช้เงินกู้ทุกบาททุกสตางค์ก็เป็นโครงการที่สนองตอบกับประชาชนทั้งสิ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ที่เคยเสนอทฤษฎีว่าถ้าไม่กู้แล้วจะไม่ร่ำรวย ไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุน ก็จะไม่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนโดยการกู้ทุกรูปแบบ แล้ววันนี้ผลจากนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างไรบ้าง จึงไม่อยากจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณบิดเบือนข้อเท็จจริงพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว ทำให้ประชาชนคนรากหญ้าสับสนและได้ข้อมูลผิดๆ ได้” โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ
นายเทพไทกล่าวอีกว่า ส่วนการยอมรับว่าตนเองได้แวะพักเติมน้ำมันแล้วค้าง 1 คืนที่โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศมาเลเซีย โดยโอ้อวดว่ารัฐบาลมาเลย์ส่งสันติบาล 15 คนมาอารักขา 24 ชั่วโมง อยากถามว่าเป็นสันติบาลประเทศไหนกันแน่ เพราะทางการมาเลย์ได้รายงานข่าวให้รัฐบาลไทยทราบตลอดเวลา เพียงช่วงดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่องจึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันท่วงที ถ้าเป็นวันทำการปกติก็คงจะได้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาขังคุกในเมืองไทยแล้ว
“มีฝ่ายข่าวรายงานว่า ในวันดังกล่าวเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับข่าวว่าความลับถูกเปิดเผยแล้ว ก็ได้กุลีกุจอ ลุกลี้ลุกลนเก็บข้าวของหนีออกจากโรงแรมแชงกลี-รา ทันที จนแม่บ้านของโรงแรมบอกว่าคนห้องพักดังกล่าวได้ลืมทิ้งของใช้ส่วนตัวอย่างเรี่ยราด เหมือนผู้ร้ายที่กำลังจะถูกรวบตัวทันทีทันใด” นายเทพไท ระบุ
ส่วนที่กล่าวหาว่ารัฐบาลไทยวุ่นวายกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกจนเขารำคาญไทยนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงฝ่ายเดียวที่หลงตัวเองว่าเป็นผู้วิเศษว่านานาประเทศให้ความสำคัญกับตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ว่าประเทศที่มีอธิปไตยเป็นของตนเองและมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีกับประเทศไทย คงจะไม่ยอมเอาศักดิ์ศรีของนักโทษหนีคุกมาแลกกับความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีระหว่างประเทศ ก็ขอให้ทะนงตัวอย่างนี้ไปก่อนแล้วสักวันหนึ่งก็จะรู้สึกว่าทุกประเทศเขาก็มีกฎกติกา และหลักสากลในการปฏิบัติเองการจับผู้ร้ายข้ามแดนที่ชัดเจน
นายเทพไทกล่าวต่อว่า นับจากนี้ไป พ.ต.ท.ทักษิณ และสมุนก็คงจะใช้ช่องทางวิทยุชุมชนในการปลุกระดมเป็นระยะๆ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการควบคุมและมีบทลงโทษตามกฎหมายด้วย หากว่าจะมีบทบัญญัติของกฎหมายที่ควบคุมหรือจัดระเบียบวิทยุชุมชนและสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในลักษณะ กบว. ซึ่งมีบทลงโทษด้วยก็จะเป็นการปิดกั้นการใช้วิทยุชุมชนในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์และสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ มิฉะนั้นจะมีนักโทษชาตแบบ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างนายจักรภพ เพ็ญแข และผู้ต้องหาคนอื่นๆ ใช้การโฟนอินจัดรายการขึ้นบ่อยครั้ง ถ้าสิทธิเหล่านี้สามารถให้คนเหล่านี้ทำได้ แล้วสักวันหนึ่งมีผู้ต้องหาคนอื่นที่หนีการจับกุมบ้าง ถูกคุมขังในเรือนจำบ้างขอจัดรายการด้วยจะได้หรือไม่ ดังนั้น ควรจะตัดไฟแต่ต้นลม วางกฎระเบียบที่ควบคุมวิทยุชุมชนเหล่านี้ให้ทั่วถึง เพราะวันนี้มีวิทยุชุมชนทั่วประเทศถึง 8 พันสถานี หากไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจนก็จะสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติได้