“ส.ว.คำนูณ” เรียกร้องให้นายกฯ แสดงความเป็นผู้นำ อย่าพูดให้สื่อเอาตีความกรณี “กษิต” จะถูกปรับออกหลังประชุมอาเซียน ยัน รมว.ต่าปงระเทศไม่เกี่ยวพันธมิตรฯ เป็นเรื่องภายในของพรรค ปชป.เอง
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระบุว่าจะฟ้องกลับนายกฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แจ้งข้อหาเกินจริงว่า เห็นด้วยกับการใช้สิทธิดังกล่าวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะเขามีสิทธิต่อสู้โดยการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งทางศาลอาญา และศาลปกครอง ส่วนเมื่อไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่รับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว แล้วทางตำรวจจะออกหมายจับอย่างไรก็ไปต่อสู้กัน อยู่ที่ศาลจะตัดสินอย่างไร เมื่อถามว่าทางพันธมิตรฯ มองว่าการนำชื่อนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เข้ามาใส่รวมด้วย อาจมีการกลั่นแกล้งจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นายคำนูณกล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่คิดว่าฝ่ายรัฐบาลจะไม่รู้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแม้แต่ตัวนายกรัฐมนตรีเอง ก็น่าจะรู้ แต่อาจไม่คิดเข้าไปแทรกแทรงตำรวจเลยแม้แต่น้อย เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า นาทีนี้ไม่ต้องการคนชื่อกษิตร่วมรัฐบาลอีกแล้ว จึงปล่อยให้กรณีแบบนี้เกิดขึ้น
นายคำนูณกล่าวต่อว่า จากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ที่มีหนังสือพิมพ์ตีความว่าจะให้นายกษิตลาออกหลังการประชุมอาเซียนนั้น บอกตามตรงตน ไม่ชอบบุคลิกแบบนี้ของนายกฯ ที่ย้อนไปย้อนมา ท่านน่าจะพูดตรงๆ ส่วนตัวคิดว่าหากไปอยู่ในตำแหน่งแล้วนายหรือผู้บังคับบัญชามาพูดแบบนี้ ตนก็คงต้องพิจารณาตัวเอง เมื่อถามว่ากระแสสังคมก็ร่วมกดดันด้วย นายคำนูณกล่าวว่า นายกษิตคงต้องใช้วิจารณญาณให้ดี ไม่จำเป็นต้องลาออกด้วยข้อหาที่ไม่เป็นจริง แต่การลาออกเพราะคนที่ดึงเอาตัวเองเข้ามาดำรงตำแหน่ง ไม่มีความจริงใจ อาศัยกระแสกดดันให้นายกษิตลาออกเอง
เมื่อถามว่าท่าทีของพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ดูเหมือนจะไปด้วยกันไม่ได้ ไม่สนับสนุนกันแล้ว นายคำนูณกล่าวว่า ทั้งพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงระยะเวลาหนึ่งอาจจะดำเนินการสอดคล้องกัน แต่ในช่วงเวลานี้ก็อาจต้องแยกเป็นกรณีไป อาจจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ถูก หรือพันธมิตรฯ ถูกก็ได้
เมื่อถามว่าเรื่องของนายกษิตจะสร้างรอยร้าวระหว่างพันธมิตรฯ กับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายคำนูณกล่าวว่า เรื่องนายกษิตไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ เป็นเรื่องพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง แต่คนอาจเข้าใจว่านายกษิตเป็นตัวแทนของพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ใช่ นายกษิตเกี่ยวข้องน้อยมาก แค่มาร่วมต่อสู้ แต่บทบาทของนายกษิตถือว่าจริงใจ แต่เป็นนายอภิสิทธิ์ที่เลือกสรรนายกษิตโดยตรง ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ จะอยู่หรือไม่อยู่เป็นเรื่องภายในของพรรคประชาธิปัตย์ นายกฯ ต้องพูดให้ชัดเจนว่าจะให้อยู่ต่อ หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก็จบ ไม่ต้องมาย้อนทวนคำ
เมื่อถามว่ามองภาวะผู้นำของนายกฯ อย่างไร นายคำนูณกล่าวว่า ส่วนตัวเคารพท่าน และมองว่านักการเมืองที่มีอยู่ขณะนี้ยังไม่มีใครเหมาะสมเท่า เรื่องซื่อสัตย์สุจริตไม่มีปัญหา แต่อยากให้กล้าหาญกว่านี้ ท่านเคยบอกว่าจะยุติการเมืองล้มเหลว แต่ตนก็เข้าใจว่าหากไม่มีพรรคของนายเนวิน หรือการสนับสนุนของทหาร ท่านก็ไม่ได้มายืนอยู่ในจุดนี้ แต่ถึงเวลาแล้วที่ท่านต้องกล้าตัดสินใจ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวท่านเอง
อนึ่ง หลังการประชุม ครม.วานนี้(9ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ถามนายอภิสิทธิ์ ถึงผลโพลล์ที่ระบุว่าต้องการให้นายกษิตลาออกจากตำแหน่ง โดยนายกฯ ได้ตอบว่า "วันนี้ท่านลา ไม่อยู่" เมื่อนักข่าวถามย้ำว่าสังคมตอนนี้มองว่าเป็นการไม่เหมาะสมที่จะให้นายกษิตทำหน้าที่ต่อ นายอภิสิทธิ์ตอบกลับว่า "ผมเห็นโพลล์ ส่วนใหญ่บอกให้ลาออกหลังการประชุมอาเซียน เวลาอ่านผลโพลล์ พวกคุณต้องอ่านให้ครบสิครับ" เมื่อผู้สื่อข่าวซักว่า ถ้าอย่างนี้หลังการประชุมอาเซียนจะมีการพิจารณาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "เปล่าครับ แต่คุณถามผมเรื่องโพลล์ ผมก็บอกว่าผมอ่านโพลล์แล้ว โพลล์บอกว่าให้ลาออกหลังการประชุมอาเซียน ตอนนี้ยังไม่มีการประชุมอาเซียนเลย" ซึ่งการตอบคำถามดังกล่าวทำให้หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์พาดหัวข่าวว่า "ออกหลังอาเซียน 'มาร์ค'ส่งชิกปลด'กษิต'ฯ"