xs
xsm
sm
md
lg

“กษิต” ป้อง “รบ.มาร์ค” มีธรรมาภิบาล-ปัดวิจารณ์ถูกเขี่ยพ้นพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
รมว.ต่างประเทศ ปัดไม่วิจารณ์ข้อสังเกต “คำนูณ” ชี้ ถูกพรรคประชาธิปัตย์เขี่ยออกจากพรรค เชื่อ “สุเทพ-สุวิทย์” เจรจาเขาพระวิหาร เป็นเรื่องดีช่วยกันทำเพื่อชาติ ยันรู้เห็นทุกข้อตกลง ลั่นไม่ยอมให้กลโกงคลาดสายตา มั่นใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ มีธรรมาภิบาลไม่โกงชาติ ระบุไม่ยอมลาออก เพราะข้อกล่าวหาน้ำเน่า กร้าวสู้ไม่ถอย

วันนี้ (8 ก.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ทางไกลจากประเทศออสเตรเลีย ผ่านทางรายการรู้ทันประเทศไทย ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ถึงกรณี นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา เสนอให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าอาจเข้าไปขัดผลประโยชน์ใครในกรณีเขาพระวิหาร จนถูกลดบทบาทในการทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศ โดยให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการเจรจาแทน ว่า รองนายกฯสุเทพ และท่านสุวิทย์ ก็เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ เป็นนักการเมืองที่ดี เป็นผู้ที่รักชาติ สามารถที่จะทำหน้าที่ได้ ซึ่งตนก็ไม่ติดใจอะไร อีกทั้งในหลักการทูต มีหลายรูปแบบวิธีที่ใช้ในการเจรจา ดังนั้น การที่ให้รองนายกฯสุเทพ ซึ่งมีความรู้จักคุ้นเคยกับทาง สมเด็จฯฮุนเซน เข้าไปเจรจาก็น่าจะเป็นหนทางที่ดี อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทั้งหมดถือว่าเป็นการแบ่งกันทำงานเพื่อชาติ ถือว่าช่วยกันทำไป โดยทั้งหมดก็มีการรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ว่าใครเป็นผู้ตกลงเจรจาระหว่างประเทศ ที่สุดแล้วอำนาจในการเซ็นลงนามจะเป็นหน้าที่ของตนในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ และนายกรัฐมนตรี หากคนอื่นจะเซ็นก็ต้องได้รับหนังสือยินยอมจากตนก่อน ซึ่งยืนยันว่า ตนจะไม่ปล่อยให้อะไรที่ไม่ชอบมาพากลหลุดสายตาไปได้แน่

นายกษิต กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนและท่านคำนูณ ได้เคยร่วมงานกันมา ดังนั้น หลังจากนี้ เราก็จะร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิดในเรื่องเขาพระวิหาร หลังจากนั้น ก็ต้องร่วมงานกันต่อไปในการป้องกันการทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน หรือบ่อนทำลายขายชาติ อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ว่าจะอยู่ในแถว อยู่ในธรรมาภิบาลแน่นอน จะไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้นแน่

ส่วนข้อสังเกตของ นายคำนูณ ที่เห็นว่า การตั้งข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงของตำรวจนั้น รัฐบาลต้องรู้มาก่อน แต่กลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการ เหมือนมีเจตนาแยกนายกษิต ออกจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายกษิต ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะตนเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอยู่ในคณะรัฐมนตรีก็ไม่สมควรที่จะวิจารณ์ แต่ขอพูดในข้อเท็จจริงที่ถูกต้องส่วนอื่นดีกว่า ทั้งนี้ ตนอยากเรียนว่า ผู้ที่รักความยุติธรรมก็ต้องช่วยกันติดตาม และสอดส่องดูแล เพื่อไม่ให้ประเทศหลุดไปในทิศทางใดที่ไม่ชอบมาพากล ดังนั้น จะให้เกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งแม้จะมีความพยายามที่จะให้ตนลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งก็เป็นเรื่องของการเมืองทั้งนั้น ทั้งนี้ แม้ตนจะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก็ยังสามารถต่อสู้กับกระบวนการที่ไม่ชอบมาพากลเหล่านี้ได้ ไม่จำเป็นว่าจะสวมหมวกใบไหน เราสู้ตายอยู่แล้วกับคนที่มุ่งร้ายกับเราและประเทศ

เมื่อถามว่า คนที่มุ่งร้ายมีคนในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ก็มี ส.ส.อยู่คนหนึ่งที่พยายามด่าทออยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนไม่ได้ใส่ใจ ก็พยายามทำงานให้กับพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาล ตนไม่ได้ยึดอยู่กับตำแหน่งไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องไปในเรื่องที่ถูกที่ควร ไม่ใช่จากข้อกล่าวหาของการเมืองน้ำเน่า ส่วนที่คอลัมนิสต์บางคนบอกให้ลาออก เพื่อสร้างการเมืองใหม่นั้น นายกษิต กล่าวว่า หากเรายอมรับในสิ่งที่ถูกกล่าวหาจากสิ่งไม่ดี จากอำนาจมืด เราก็อยู่กันอย่างนี้ ซึ่งตนไม่ได้มีความผิดในเรื่องการทำงานในหน้าที่เลย ทั้งนี้ หากตำรวจส่งฟ้องและอัยการรับฟ้องก็คงไม่สามารถที่จะมีหน้าทนอยู่ในตำแหน่งได้ แต่ในขณะนี้ด้วยข้อกล่าวหาที่เห็นชัดว่าเป็นเรื่องของการเมือง ก็ทำให้รู้สึกว่ารับไม่ได้ มันเป็นการเมืองน้ำเน่า เป็นการเมืองที่สกปรก ซึ่งแม้ตนจะลาออกไปก็ยังจะต่อสู้กันไปอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น