“ชวนนท์” ซัด “เหล่” ทิ้งเก้าอี้เพราะจำนนหลักฐาน อย่ายกเทียบบี้ “กษิต” ออก

เลขาฯ รมว.ต่างประเทศ ซัด “นพดล” ทิ้งเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ เพราะจำนนต่อหลักฐาน หลังศาลฯ พิพากษาเซ็นแถลงการณ์ร่วมฯ ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารขัดรัฐธรรมนูญ อย่าเอามาอ้างเรียกร้องให้ “กษิต” ลาออก เพราะแค่ถูกหมายเรียกคดีชุมนุมในสนามบิน พร้อมย้ำไม่เข้าข่ายกฎเหล็ก 9 ข้อของนายกฯ ยืนยัน คน ปชป.มีสปิริต ไม่ต้องรอให้ใครมาบอก

วันนี้ (6 ก.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ว่า ตามที่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างหลบหนี ได้แถลงข่าวเรียกร้องให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แสดงสปิริตด้วยการลาออก เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกในคดีการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยนำไปเปรียบเทียบกับกรณีที่นายนพดลลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ หลังจากศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า การลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 150 นั้น ไม่ทราบว่านายนพดลเอาไปเปรียบเทียบกันได้อย่างไร เพราะทั้งสองกรณีนี้มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยนายกรณีของนายนพดลนั้นจำเป็นต้องลาออกเพราะ “จำนนต่อหลักฐาน” หลังจากศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าทำผิดมาตรา 190 แต่กรณีของนายกษิตเป็นเพียงแค่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น

นายชวนนท์ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวนายกษิตก็พร้อมไปพบเจ้าหน้ที่ตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็วอยู่แล้ว โดยอาจไปก่อนวันที่ 16 ก.ค.ด้วยซ้ำ

ส่วนที่นายนพดลอ้างถึงกฎเหล็ก 9 ข้อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ทั้ง 9 ข้อ ไม่มีข้อไหนที่บอกว่า เมื่อรัฐมนตรีถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้วจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ตามสปิริตของคนประชาธิปัตย์นั้น เขารู้ตัวของเขาเองอยู่ว่าควรจะลาออกเมื่อไหร่ ไม่จำเป็นที่คนอย่างนายนพดลต้องมาบอก