โฆษกเพื่อไทยเล่นเกมโต้รายวันรับลูก “พ่อแม้ว” อัดรัฐบาลไร้น้ำยาดีแต่กู้เงิน สร้างหนี้ไล่บี้ทักษิณ ให้คะแนนสอบตกทุกด้าน สะเออะจี้ “มาร์ค” ปรับพ้น ครม.หลังถูกออกหมายเรียกในคดีก่อการร้าย ปลุกผีอ้างสิทธิ ส.ส.ชักแถวอวยพรวันเกิดพ่อแม้วที่ดูไบ
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงผลงานรัฐบาล 6 เดือนที่ผ่านมาว่า พรรคเพื่อไทยได้ประเมิณทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง รวมทั้งด้านต่างประเทศ ถือว่ารัฐบาลสอบตกทั้งหมด สอดคล้องกับผลกรุงเทพโพลล์ก่อนหน้านี้ ให้คะแนนรัฐบาลจาก 4 จาก 10 เท่านั้น ด้านเศรษฐกิจเหมือนเป็นการซื้อเวลา การแก้ปัญหาไม่เห็นรูปธรรม รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งออก พ.ร.ก.-พ.ร.บ.เงินกู้กว่า 8 แสนล้านบาท การเลือกตั้งซ่อม จ.ศรีสะเกษ และ จ.สกลนคร ประชาชนรากหญ้ายังสะท้อนให้เห็นถึงแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยขอให้คะแนนในส่วนนี้เพียง 3 คะแนนจาก 10 คะแนน รัฐบาลไม่ทำอะไรนอกจากกู้เงิน สร้างหนี้ ไล่บี้ทักษิณ
ด้านสังคมการแก้ปัญหาเรื่องไข้หวัด 2009 ตามที่นายอภิสิทธิ์บอกว่าจะไม่มีคนตายแต่ตอนนี้มีคนตายไป 7 รายแล้ว นายอภิสิทธิ์จะรับผิดชอบอย่างไร สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการดูแลชีวิติทรัพย์สินประชาชน พรรคให้คะแนนทางสังคม 2 เต็ม 10 ด้านต่างประเทศ รัฐบาลตีบทสองหน้า มอบให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรฯ ไปร้องคัดค้านการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกที่ประเทศสเปน สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดกำลังทหารพร้อมปะทะเมื่อใดก็ได้ ทั้งที่รัฐบาลควรผูกมิตรประเทศเพื่อนบ้าน ในอดีตที่ผ่านมารัฐบาลเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าแต่รัฐบาลนี้จะเปลี่ยนสนามการค้าเป็นสนามรบที่เกิดจากการบริหารไม่จริงใจ พรรคเพื่อไทยให้ 0 คะแนน
สำหรับการแก้ปัญหาการเมืองยังมีการแบ่งสีแบ่งฝ่าย ไล่บี้ พ.ต.ท.ทักษิณ และหลังจากมีคณะกรรมการสมานฉันท์ที่ทุกพรรคการเมืองเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญ 237 แต่นายอภิสิทธิ์กลับเห็นต่าง กลับสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ซื้อเวลาเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ตรงส่วนนี้รัฐบาลจึงได้ 1 คะแนนจาก 10 เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ ที่ล้มเหลวเพราะฝ่ายการเมืองและความมั่นคง เป็นการทำงานต่างคนต่างทำ เล่นดนตรีคนละวง ทั้งนี้สรุปภาพรวมทถือว่ารัฐบาลสอบตกทั้งชุดในสายตาของฝ่ายค้านและประชาชน
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯ รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่บุกยึดสนามบินว่า ก่อนหน้านี้นายกษิตระบุว่าหากโดนแจ้งข้อหาจะลาออกจากตำแหน่ง พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องนายกษิตให้ลาออก และให้นายอภิสิทธิ์ พิจารณาเรื่องนี้ด้วย ไม่ใช่ซื้อเวลาลากเรื่องนี้ออกไป ซึ่งข้อหาที่นายกษิตถูกออกหมายเรียกมีความรุนแรง ทั้งในข้อหาก่อการร้ายและฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 ขณะที่การประชุมอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 17-23 ก.ค. หากมี รมว.ต่างประเทศ ที่ถูกดำเนินคดีข้อหารุนแรงเช่นนี้ก็ทำให้ประเทศไทยขาดความสง่างาม ดังนั้นวันนี้อย่าเอาศักดิ์ศรีประเทศไทยไปแลกกับรัฐมนตรีคนเดียว กับความมั่นคงของรัฐบาล
“นายกรัฐมนตรีเคยพูดเสมอว่าปัญหาของประชาชนต้องมาก่อน แต่วันนี้รัฐบาลสอบตก เพราะใช้รัฐมนตรีผิดฝาผิดตัว เช่น ครม.เศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมก็ล้มเหลว ตัวเลขจีดีพีติดลบ ดังนั้น โอกาสนี้ควรปรับ ครม.ทั้งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ฝ่ายความมั่นคง และต่างประเทศ ให้ถูกฝาถูกตัว เพื่อแก้ปัญหาในวันข้างหน้า ไม่ใช่บริหารงานแบบซื้อเวลา แบบจัดสรรอำนาจ โดยที่มุ่งแต่จะแก้ปัญหารัฐบาล ไม่ใช่ปัญหาประชาชน ซึ่งนายกฯ ควรต้องปรับ ครม.ก่อนที่จะมีการประชุมอาเซียน” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวและว่า ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทยจะยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เพื่อทำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาปราสาทพระวิหารให้ปรากฏ หลังที่คณะรัฐมนตรีโดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแดล้อม ได้ยื่นประเด็นโต้แย้งข้อพิพาทกรณีปราสาทพระวิหารต่อศาลโลกที่ประเทศสเปน ซึ่งการยื่นหนังสือของพรรคเพื่อไทยเป็นไปตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร เพื่อจะขอให้นายกฯ เปิดเผยว่ายื่นประเด็นโต้แย้งอะไรบ้าง และให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการด้านกฎหมายและมรดกโลก เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า เรื่องนี้การโต้แย้งสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไร หลังจากที่ศาลโลกเคยมีคำพิพากษามาแล้วเมื่อปี พ.ศ.2505 ซึ่งการโต้แย้งต้องดำเนินการภายใน 10 ปี
“พรรคเพื่อไทยต้องการให้นายกฯ ทำความจริงให้ปรากฏเพื่อป้องกันไม่ให้มีนักการเมืองกลุ่มใดใช้ประเด็นนี้ไปปลุกระดมเหมือนลัทธิข้ามชาติจนทำให้กลายเป็นปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะถึงเวลาที่เราต้องเอาเพื่อนบ้านเป็นรั้ว” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึง ส.ส.ที่จะเดินทางไปเยี่ยมเยียนอวยพรวันเกิดครบรอบ 60 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบนั้นถือเป็นสิทธิของ ส.ส. ไม่สามารถห้ามได้ เป็นเรื่องของคนรักใคร่ชอบพอกันที่ ส.ส.อาจไปปรึกษาขอคำแนะนำการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ