xs
xsm
sm
md
lg

โพลห่วงสถานะการเงินฉุดดัชนีดิ่งวูบ ชี้ระบอบรัฐสภาถึงจุดเสื่อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ ประจำเดือน พ.ค.ตกต่ำสุด ขณะที่ระบบรัฐสภาไทยถึงจุดเสื่อม แต่ยังคาดหวังว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้าภาวะเศรษฐกิจคงจะดีขึ้นร้อยละ 35 และอยากเห็นเดินหน้าปัญหาเศรษฐกิจและการว่างงานอย่างเร่งด่วน

วันนี้ (28 พ.ค.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความเชื่อมั่นประเทศไทย ประจำเดือนพฤษภาคม 2552” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 1,328 คน แจากบบสอบถามในหัวข้อความเชื่อชื่อมั่นประเทศไทยประจำเดือนพฤษภาคม 2552 มีคะแนนความเชื่อมั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 4.07 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งลดลงจากเดือนเมษายน 0.02 คะแนน หรือร้อยละ 0.2

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาคะแนนความเชื่อมั่นในแต่ละด้าน พบว่า ความเชื่อมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีและความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อของคนไทยยังคงมีคะแนนสูงที่สุด และเป็นความเชื่อมั่นเพียงด้านเดียวจากทั้งหมด 12 ด้านที่มีคะแนนสูงกว่าครึ่ง ในขณะที่ความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินการคลังของประเทศมีคะแนนต่ำที่สุดคือ 3.36 โดยลดต่ำกว่าเมื่อเดือนเมษายน 0.16 คะแนน หรือร้อยละ 1.6

สำหรับความเชื่อมั่นที่มีคะแนนลดลงมากที่สุด คือ ความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาไทย รองลงมาคือ ความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และความเชื่อมั่นในความมั่นคงปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ตามลำดับ

ส่วนความเชื่อมั่นที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ความเชื่อมั่นในการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ ความเชื่อมั่นในความสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน และความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน และการประกอบอาชีพ ตามลำดับ

ส่วนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อประเทศไทย ในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าด้านเศรษฐกิจจะดีขึ้น ส่วนด้านการเมืองและสังคมจะยังคงเหมือนเดิม ดังตารางต่อไปนี้ (1.ด้านเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะดีขึ้น ร้อยละ 35.7 และแย่ลง 29.3 (2.ด้านการเมือง เชื่อว่าจะดีขึ้น ร้อยละ 33.4 และแย่ลง 21.9 (3.ด้านสังคม เชื่อว่าจะดีขึ้น ร้อยละ 31.7 และแย่ลง 26.3

จากแบบสอบถามความต้องการของประชาชน อยากเห็นรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาใด เป็นอันดับแรกพบว่า ร้อยละ 40.1 ต้องการเห็นรัฐบาลเร่งแก้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน และการลงทุนมา อันดับ 2 แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกัน ร้อยละ 35.0และเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมือง ให้มีความสมานฉันท์ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ ร้อยละ 6.0
กำลังโหลดความคิดเห็น