ผู้จัดการรัฐบาลยันไม่มีปัญหาพรรคร่วมตั้งวงกินข้าว อ้างรู้แล้วนัดหารือแต่ไม่ว่างติดภารกิจร่วมวง ชี้เรื่องปกติคุยแก้รัฐธรรมนูญปลดล็อก ส.ส.-ส.ว.ถือหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐ ลั่นพร้อมรับผลตัดสิน กกต.ไม่หวั่นผลโพลล์ชี้รัฐบาลสอบตก อ้างผลงานยังไม่ปรากฏต้องใช้เวลา
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนที่ผ่านมาที่โรงแรมโอเรียนเต็ล โดยไม่มีแกนนำจากพรรคประชาธิปัตย์ร่วมด้วยว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณอะไรทั้งสิ้น เพราะปกติหากพรรคร่วมมีการหารือกันตนก็จะไปด้วย แต่บังเอิญตนเดินทางไปสิงคโปร์กับนายกฯ รวมถึงเลขาฯ นายกฯ ด้วย จึงไม่มีใครไปร่วมหารือกับพรรคร่วม แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะตนรู้กำหนดการนัดหมายครั้งนี้มาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งก็มีการจัดหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ
ผู้สื่อข่าวถามถึงการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล มีการหารือกันถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะมาตรา 265 ที่ห้าม ส.ส.และส.ว.ถือหุ้นในบริษัทที่เป็นสัมปทานกับรัฐ นายสุเทพกล่าวว่า ก็เป็นความคิดเห็น เวลานักการเมืองกินข้าวกันก็ต้องคุยเรื่องการบ้านการเมือง เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นผู้จัดการรัฐบาลด้วย เป็นห่วงเสียง ส.ส.ที่อาจจะมีผลในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งต่อไปหรือไม่ จากการพิจารณาของ กกต. นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต้องดูกันต่อไป และตนก็ยังไม่ได้ตรวจดูว่ามีกี่คนในรัฐบาลที่จะต้องถูกตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้มีการวิเคราะห์กันว่าอาจทำให้รัฐบาลต้องยุบสภาเร็วขึ้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า อย่ารีบคาดการณ์ไป ต้องดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องดูไปทีละขั้นตอน
“ผมยืนยันได้ว่าพวกผมปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้าเขาว่าขาดคุณสมบัติก็ขาด ไม่มีปัญหาอะไร และไม่เคยลุ้นว่า กกต.จะพิจารณาอย่างไร เพราะแต่ละคนก็ต่างมีอำนาจหน้าที่ของตัวเอง สำหรับตนได้ขายหุ้นทิ้งไปนานแล้ว เพราะฉะนั้น กกต.จะพิจารณาว่าตนพ้นสภาพเฉพาะ ส.ส. ยังไม่พ้นจากรัฐมนตรี หรือพ้นทั้ง 2 สถานภาพก็แล้วแต่ ผมคงไปวินิจฉัยแทนคนอื่นไม่ได้ ผมเป็นผู้ถูกวินิจฉัย ดังนั้นอย่าให้ตนมาคาดการณ์เอาเอง ไม่กังวลใจอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เขาให้ทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าถึงตอนนี้คิดว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาจริงๆ แล้วหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่คิดเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะมีคนคิดอยู่แล้ว ตนไม่ขอวิจารณ์ เดี๋ยวจะกลายเป็นก้าวล่วงเขาไป แล้วจะขัดใจกัน
นายสุเทพกล่าวถึงกรณีกรุงเทพโพลล์ ระบุว่ารัฐบาลสอบตกในการทำงานรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาว่า เมื่อผลสำรวจออกมาอย่างนี้ คนที่เป็นรัฐบาลทุกคนก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น ก็ดีแล้วที่มีโพลล์ออกมาอย่างนี้ เราก็รับฟังไว้ และทำงานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ยังไม่คิดจะถือโอกาสนี้ปรับครม.แต่อย่างใด คิดว่าการทำงานของครม.ทั้งคณะยังทำงานได้ดีอยู่ แต่ไม่ได้วิเคราะห์ว่างรัฐบาลทำงานดี แต่ทำไมผลสำรวจประชาชนออกมาไม่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีจุดไหนที่เป็นจุดเด่น-จุดด้อยที่รัฐบาลต้องปรับ รองนายกฯ กล่าวว่า คิดว่าบางทีงานที่รัฐบาลทำผลอาจจะยังไม่ปรากฏ เช่น งานที่ตนรับผิดชอบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังไม่ปรากฏผลซึ่งก็ต้องใช้เวลา บางส่วนก็ต้องรองบประมาณที่จะลงไปด้วย อย่างน้อยก็คงต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนจะเห็นผล
เมื่อถามว่าขณะนี้มีหลายปัญหาที่รุมเร้ารัฐบาล อายุรัฐบาลจะอยู่ได้ยาวพอที่จะเห็นผลงานหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องทำใจให้ว่างเข้าไว้ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวความดันขึ้น เมื่อถามว่าหมายถึงขณะนี้รัฐบาลก็เตรียมเผื่อไว้สำหรับอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดไว้ด้วยเหมือนกัน รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เผื่อ ตนทำงานวันต่อวัน ตั้งหน้าตั้งตาทำไปเรื่อย ไม่คิดมาก
