xs
xsm
sm
md
lg

“ประพันธ์” ปัดเกี้ยเซี้ย รบ.ยกคำร้อง “เทพเทือก” ส่ง ส.ส.ช่วย วธ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประพันธ์ นัยโกวิท
“ประพันธ์” ชี้เหตุ กกต.ยกคำร้อง รองนายกฯ ส่งส.ส.ช่วยงานกระทรวงฯ ไม่ได้เกรงใจรัฐบาล ยังไม่ปักธง 14 ก.ค.ลงมติเชือด 28 ส.ส.ปชป.ถือหุ้นทันหรือไม่ เหตุอาจต้องสอบเพิ่ม เช่นเดียวกับสอบ 44 ส.ส.ที่อาจต้องขยายเวลาให้อนุฯ ทำงานอีก


วันนี้ (1 ก.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ กกต.ยกคำร้องกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือส่งตัว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 19 คนไปช่วยงานที่กระทรวงวัฒนธรรมว่า กรณีดังกล่าวนั้น รมว.วัฒนธรรมยังไม่ได้เซ็นแต่งตั้ง ส.ส.ทั้ง 19 คน อีกทั้งการสอบสวนยังพบว่า ส.ส.ทั้ง 19 คนไม่มีความประสงค์ที่จะเข้าไปรับตำแหน่งในกระทรวงดังกล่าวแล้ว ที่ประชุม กกต.จึงมีความเห็นเสียงข้างมากว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการเข้าไปแทรกแซงและก้าวก่ายการทำงานในกระทรวงวัฒนธรรม ส่วนที่มี กกต.คนหนึ่งมีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเข้าไปแทรกแซงนั้นถือเป็นดุลพินิจของ กกต.คนนั้น

ทั้งนี้ นายประพันธ์ ยืนยันว่าที่ กกต.วินิจฉัยเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเกรงใจรัฐบาลหรือพรรคประชาธิปัตย์ และไม่เข้าข้างใคร การที่บางคนเห็นว่าการทำหนังสือส่งตัวเป็นการก้าวก่าย แต่เรากลับเห็นตรงข้าม เพราะว่ายังไม่มีการกระทำใดเกิดขึ้น เราพิจารณาตามข้อเท็จจริงทุกประการ

ส่วนกรณีสำนวนการถือครองหุ้นของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 28 คนที่ กกต.นัดลงมติวันที่ 14 ก.ค.นั้น นายประพันธ์ไม่ยืนยันว่าวันดังกล่าว กกต.จะลงมติได้เลย แต่ในสำนวนการสอบสวนเบื้องต้นได้สอบเสร็จสิ้นแล้วและได้เสนอมาให้ กกต.พิจารณา ซึ่งต้องนำไปศึกษาดูรายละเอียดอีกครั้ง จึงยังไม่ทราบว่าจะต้องส่งกลับคืนให้อนุฯ สอบเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง แต่จากที่ดูในสำนวนพบว่ามีบริษัทที่เพิ่มเข้ามาจาก 14 บริษัท แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นบริษัทได้รับสัมปทานจากรัฐหรือเป็นบริษัทธุรกิจสื่อ รวมทั้ง ส.ส.ที่ถูกร้องถือหุ้นมากน้อยเท่าใดหรือถือก่อนหลัง

เมื่อถามว่า กกต.ใช้อนุสอบหลายชุดทำให้ผลสอบออกมาต่างกัน กกต.ลำบากใจในการตัดสินหรือไม่ นายประพันธ์กล่าวว่า หลังจากที่อนุกรรมการฯมีความเห็นเสนอมา กกต.ก็ต้องมาดูในภาพรวมอีกครั้ง ซึ่งการพิจารณาจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายและข้อเท็จจริง ซึ่งการให้อนุกรรมการแต่ละชุดไปทำนั้น ไม่ถือเป็นข้อผิดพลาด เพราะการร้องเรียนนั้นไม่ได้ร้องเรียนเข้ามาพร้อมกัน แต่การทำงานของคณะอนุกรรมการนั้นก็ต้องมีการประสานงานกันเพื่อให้ผลออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะ กกต.จะใช้หลักการพิจารณาของ 16 ส.ว.ที่ กกต.มีมติไปแล้วเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ส่วนกรณีที่ประธานวุฒิสภาเห็นว่า กกต.ควรทบทวนมติ 16 ส.ว.ขาดคุณสมบัติก็ไม่ถือว่าเป็นการดิสเครดิต หรือทำให้ กกต.เสียหน้า แต่มองในทางตรงกันข้ามว่าเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย ซึ่งทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอน หากมีการส่งสำนวนกลับคืนมาให้ทบทวน กกต.ก็จะส่งให้อนุกรรมการไปสอบสวนว่ามีอะไรที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่

นายประพันธ์ยังกล่าวถึงกรณี กกต.ให้อนุฯ ไปสอบสวนเพิ่มกรณี ส.ส.44 คนถือครองหุ้นว่า ยังไม่ทราบว่าเมื่อถึงกำหนดแล้วจะต้องมีการขยายเวลาเพิ่มเติมต่อไปอีกหรือไม่ แต่ก็ได้เร่งรัดให้ดำเนินการอยู่ ซึ่งก็มีปัญหาที่ ส.ส.บางคนมาชี้แจงไม่ได้เพราะอยู่ต่างประเทศ ก็ต้องดูเหตุผลว่าเพราะเหตุใดถึงไม่เดินทางเข้ามาชี้แจง แต่เรื่องของคดีไม่สามารถที่จะทำตามใจชอบได้ ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่แล้ว และการทำงานของ กกต.จะถือตามข้อเท็จจริงตามหลักของกฎหมาย ไม่เข้าใครออกใคร
กำลังโหลดความคิดเห็น