“นายกฯอภิสิทธิ์” พร้อมโต้ข้อกล่าวหา “ทักษิณ” ตีเงินกู้ บอกยุครัฐบาลทักษิณก็กู้เงินมหาศาล ทำประเทศเป็นหนี้ แถมต้องตามล้างตามเช็ดโครงการ “บ้านเอื้ออาทร” หลังขาดทุนยับ แฉ 8 สมัยยุคแม้วรุ่งเรืองปล่อยให้ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีอนามัย แหล่งน้ำเสื่อมโทรม พร้อมบอกไม่ติดใจการทำงาน “บัวแก้ว” ตามตัว “ทักษิณ” กลับรับโทษ อ้างสนธิสัญญาต่างกันทำติดขัด ปัดไม่เคยกลัวให้กลับประเทศ ชี้ อยากให้กลับรับโทษ
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เลขาธิการรัฐมนตรีต่างประเทศ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากประเทศดูไบ มาอยู่ประเทศในเอเชีย นายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ได้ยินข่าวเหมือนกัน แต่ไม่ทราบรายละเอียด เมื่อถามต่อว่า จำเป็นต้องติดตามความเคลื่อนไหวหรือไม่ เพราะมีการโฟนอินมาที่กลุ่มคนเสื้อแดงตลอด นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ โฟนอินอยู่ที่ไหนก็ได้ ซึ่งถ้าเราทราบว่า อยู่ที่ไหนเราก็ไปขอความร่วมมือประเทศนั้นๆ ว่า อย่าทำอะไรที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของประเทศ และอย่าทำผิดกฎหมาย รวมถึงถ้ามีข้อตกลงในการส่งตัวมาได้ก็ขอให้ส่งตัว ตนไม่อยากพูดมาก เพราะเดี๋ยวเขาจะหาว่า ตนใช้เวลาทำแต่เรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะต้องติดตามโดยปกติ
เมื่อถามว่า นายกฯไม่ได้หวั่นวิตกอะไรใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ เพราะเราเป็นฝ่ายที่บอกให้ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาในประเทศ ไม่ใช่ว่าเราห้ามไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าหรือกลัวว่าจะเข้ามา ที่ผ่านมาตนบอกมาตลอด ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีควรกลับเข้ามารับโทษ และถ้าหากท่านจะกลับเข้ามารับโทษก็ตรงกับแนวคิดของเรา”
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสื่อสารกับประชาชนว่าต้องกลับเข้ามาเพื่อล้างหนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อไว้ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะ พร้อมกลัวว่า ก็คิดว่าแปลกดีเพราะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
“ผมอยากจะย้ำเรื่องของการสร้างหนี้ต้องเอากันให้ชัดว่าในรอบที่แล้วไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่ไปกู้เงินมาจากไอเอ็มเอฟ แต่เราเข้ามาก็เข้าใจว่าคนที่ไปกู้มีความจำเป็นเราก็ทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา รัฐบาลประชาธิปัตย์ทำงานจนกระทั่งสามารถหยุดเบิกเงินจากไอเอ็มเอฟคือไม่ต้องกู้ครบจำนวน และสามารถจะใช้หนี้คืนได้เร็วก่อนกำหนด ซึ่งถ้าทำก็จะได้ผลทางการเมืองแต่เราไม่ทำเพราะจะทำให้ประเทศเสียค่าปรับก็ยอมไม่เสียค่าปรับ ทั้งๆ ความจริงในทางการเมืองการใช้หนี้ก่อนมันเป็นประโยชน์ ดังนั้น ความพร้อมในการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟเสร็จสิ้นมาก่อนที่รัฐบาลคุณทักษิณจะเข้ามาเสียอีก อีกทั้งช่วงที่คุณทักษิณอยู่ในตำแหน่งก็มีการกู้เงินมากมายมหาศาล ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้าน ทำงบประมาณขาดดุลอยู่ 3-4 ปี แต่ผมก็ไม่ว่าอะไรเราต้องให้ความรู้กับประชาชนว่าการที่รัฐบาลกู้เงินนั้นเป็นเรื่องปกติในการบริหารด้านการเงินการคลัง อย่าไปทำให้เกิดความสับสน ถ้าอยากจะหาเสียงด้วยวิธีดังกล่าวก็ทำไปและอยากย้ำว่าเราเองก็ต้องมาตามแก้ปัญหาทุกปัญหา วันนี้ ครม.ก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาบ้านเอื้ออาทร ทั้งขาดทุนทั้งมีปัญหามากมาย ยังมีคดีทุจริตค้างที่ ปปช.ด้วย ผมก็ไม่บ่นเพราะถือเป็นหน้าที่แก้ปัญหาไป ถ้านักการเมืองทำอย่างนี้ได้ประชาธิปไตยก็จะเดินหน้าไปอีกขั้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานที่วางกรอบไว้หรือไม่ เนื่องจากมีการโฟนอินเข้ามาจนเกิดความสับสน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่กระทบการบริหารเพราะแนวทางการบริหารของรัฐบาลมีความชัดเจน และยึดอยู่กับข้อเท็จจริง และหลักการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ความจริงรัฐบาลก็ไม่มีความจำเป็นในการกู้เงินถ้าไม่คิดว่าต้องทำอะไร แต่บังเอิญเห็นว่า 7-8 ปีที่ผ่านมา เราปล่อยให้ถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีอนามัย แหล่งน้ำเสื่อมโทรมและถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องมี ก็ตัดสินใจที่จะทำและมั่นใจว่าทำแล้วอนาคตประเทศไทยเข้มแข็งขึ้นก็จะสามารถใช้หนี้ได้ไม่มีปัญหาก็ตัดสินใจเดินหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรถึงเวลาหาเสียงเราก็จะไปบอกเองว่าตกลงฝ่ายนั้นเขาไม่เห็นด้วยประชาชนก็จะได้ตัดสินเอง
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีตั้งข้อสงสัยหรือไม่ว่าทำไมหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงจึงไม่สามารถดำเนินการอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทั้งที่รู้ว่าอยู่หรือเดินทางไปที่ไหน ปัญหาอยุ่ที่กระทรวงการต่างประเทศหรือปัญหาด้านการทูต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้คิดเช่นนั้นตัวอย่างกรณีที่เรายังมีบุคคลที่ประเทศต้องการตัวซึ่งรู้ที่อยู่เป็นหลักแหล่งเป็นสิบๆ ปี แต่ของอย่างนี้มันไม่ง่าย เพราะถ้าประเทศเหล่านั้นไม่มีสนธิสัญญาก็ยาก หรือแม้จะมีสนธิสัญญาบางครั้งก็ต้องไปขึ้นศาลและต้องมีการเทียบเคียงกฎหมายของทั้งสองประเทศในเรื่องความผิด และขั้นตอนต่างๆ
เมื่อถามย้ำว่า ปัจจุบันการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศต่อกรณีการนำตัวอดีตนายกฯกลับประเทศมีประสิทธิภาพแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศทำงานในระดับที่เหมาะสม ได้ติดตามไปยังบประเทศต่างๆ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีเคลื่อนไหวให้ช่วยผลักดัน บางประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาก็ผลักดันให้มีขึ้น แต่งานของกระทรวงการต่างประเทศมีงานสำคัญกว่านี้อีกหลายเรื่อง อีกทั้งเราต้องให้ความสำคัญกับงานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั่วไป
“อย่างที่เคยพูดว่าขนาดทำแค่นี้ก็ยังมีคนไปบ่นว่าดีแต่ทำเรื่องนี้ ความจริงไม่ใช่ เราทำตามความเหมาะสมเท่านั้นเอง ทั้งระบบการติดตาม การนำตัวบุคคลๆหนึ่งเข้ามาเพื่อรับโทษตามกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจ้าหน้าที่ได้รายงานหรือประสานงานกับทางรัฐบาลบ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการประสานงานกับทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการประสานงานในหลายระดับแต่บังเอิญว่ามีหลายเงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวถามว่า จริงๆ แล้วรัฐบาลตั้งใจนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาลงโทษจริงหรือไม่ หรือ ไม่กล้าทำเนื่องจากกลัวบ้านเมืองลุกเป็นไฟ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “รัฐบาลตั้งใจจริงที่จะนำตัว รัฐบาลไม่ได้กลัว เราไม่เคยขอให้ท่านออกไป” เมื่อถามว่า ในทางการเมืองการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่นอกประเทศ หรือในประเทศอย่างไหนจะดีต่อรัฐบาลมากกว่ากัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับตนดีที่สุด คือ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษตามกฎหมาย เพราะจะช่วยทำให้ทุกคนยอมรับกติกาว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย