“เทพไท” วอนแก๊งเสื้อแดงหยุดหมิ่นเบื้องสูงกดดันถวายฎีกาอภัยโทษให้ “นช.แม้ว” ดันทุรังทำสร้างความแตกแยกในสังคม ย้ำ 5 พฤติกรรม เหตุศาลยกฟ้องคดีสุเทพหมิ่น ซัด “ไอ้ตู่” ควายไม่คิด แต่เจตนาทำ ชี้แค่โปรโมชันงานเข้าหวังปั่นน้ำเลี้ยงเพิ่ม
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการรวบรวมรายชื่อประชาชนให้ครบ 1 ล้านคน เพื่อถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ปรากฏว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.บางส่วนได้รับลูกในการตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงรายชื่อในต่างจังหวัดแล้ว หลังจากที่แกนนำ นปช.ได้ประกาศบนเวทีของคนเสื้อแดงเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติการดำเนินการดังกล่าว เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและบังควรอย่างยิ่ง เพราะหากยังดันทุรังที่จะดำเนินการต่อก็จะยิ่งเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคมไทยให้เพิ่มมากขึ้น เพราะยังมีประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ยังยึดมั่น เคารพศรัทธา และจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์ หากเห็นว่าการกระทำใดๆ เป็นการมิบังควรและกระทบต่อเบื้องพระยุคลบาทก็อาจจะมีการออกมาขัดขวาง ซึ่งจะทำให้เกิดความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น
นายเทพไทกล่าวว่า ตนขอหยิบยกพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทางศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ศาลวินิจฉัยยกคำฟ้องและนำสืบว่า พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความเหมาะสมและหมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง คือ 1.พ.ต.ท.ทักษิณพูดต่อที่ประชุมของคนแท็กซี่ที่สนามอินดอร์สเตเดี่ยมหัวหมาก เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2548 โดยระบุว่าถ้าคนอย่างตนไม่จงรักภักดี และผีที่ไหนจะมาจงรักภักดี 2.กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดในรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2549 ว่าถ้าจะให้ตนลาออกจาตำแหน่งนายกฯ เพียงแต่พระเจ้าอยู่หัวมากระซิบข้างหู ก็จะลาออกทันที 3.พ.ต.ท.ทักษิณพูดกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2549 ว่ามีผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญมาก่อความวุ่นวายต่อระบอบประชาธิปไตยมากเกินไป 4.กรณีที่คนเสื้อแดงภายใต้การสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณได้นำพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ติดไว้ที่หลังเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดงหน้ารัฐสภา ซึ่งมีการติดข้อความที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และ 5.พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนลเชียนไทม์ ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบแผนการรัฐประหารมาล่วงหน้า
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและหมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูงเป็นอย่างยิ่ง แล้วจะมาขอยื่นถวายฎีกาแสดงถึงความไม่เหมาะสมที่แสดงต่อสถาบันเบื้องสูง นอกจากนี้ ควรสั่งให้ลิ่วล้อและสมุนของตัวเองยุติการดำเนินการใดๆ ทั้งหมดได้แล้ว ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าการชูประเด็นนี้ขึ้นมาของแกนนำ นปช.เป็นพียงการรับจ็อบใหม่ ที่ภาษาวัยรุ่นเรียกว่างานเข้า เพื่อที่จะขอเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อมาเคลื่อนไหวใช่หรือไม่ ซึ่งอาจจะตรงกับภาษิตที่ว่า ระวังหมาจะผอม-เห็บจะอ้วน ดังนั้น สังคมไทยควรกดดันคนเหล่านี้ที่ทำเรื่องไม่บังควร
ทั้งนี้ ตนเห็นว่าเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายที่ตรงตามแผน “ตากสิน 2” ที่ระบุว่าผนึกกำลังสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อนายใหญ่ ทั้งที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.บอกว่าแผนนี้แม้แต่ควายก็ยังไม่ได้คิด แต่เชื่อว่าควายอาจไม่ได้คิดจริง แค่ควายนำมาปฏิบัติ
