โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยผลการหารือวอร์รูมปชป. ประเมินพื้นที่เสี่ยง “แดงถ่อย”ชุมนุมอาจสร้างสถานการณ์ ชี้จับตา “ท่าจอดรถแก๊ส-ปั๊มแก๊ส-ท่ารถเมล์-วัด-มัสยิด” พื้นที่เสียง ไม่ใช่ “ทำเนียบ-สนามหลวง” ประณาม “ไข่แม้ว-หางแดง” กล่าวหารัฐบาลสร้างสถานการณ์ฟื้นแผนตากสิน 2 วางระเบิดสถานที่สำคัญทางศาสนา เป็นเงื่อนไขความรุนแรงเข่นฆ่าประชาชนเรียกร้องทุกฝ่าย ช่วยเฝ้าระวัง
วันนี้ (27มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา 10.45 น. นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะทำงานปฏิบัติการทางการเมือง (วอร์รูม) ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประชุมหารือสถานการณ์ทางการเมือง เห็นว่าปัญหาหลักของประเทศในขณะนี้มี 3 เรื่องคือ ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ความไม่สงบใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ และความเสี่ยงจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาแต่พรรคเห็นว่าความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขร่วมกับรัฐสภา โดยมีคณะอนุกรรมการสมานฉันท์ดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากฝากถึงประชาชนที่เตรียมจะเข้าร่วมชุมนุมในวันนี้ ซึ่งเราทราบว่ามาโดยบริสุทธิ์ใจเพราะอยากเห็นบ้านเมืองดี เราเคารพสิทธิ์เสรีภาพหากการชุมนุมเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย แต่ตอนนี้เงื่อนไขการชุมนุมลดลงไปมาก ไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง ทั้งการควบคุมจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือกลุ่มผู้ชุมนุมที่พยายามจะล้มรัฐบาล
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับข้อกล่าวหาของแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ระบุว่า “แผนตากสิน 2” คือ เหตุการณ์ชุมนุมวันนี้ รัฐบาลจะสร้างสถานการณ์ โดยการวางระเบิดสถานที่สำคัญทางศาสนา เพื่อเป็นเงื่อนไขในการใช้ความรุนแรงเข่นฆ่าประชาชนนั้น พรรคประชาธิปัตย์ขอประณามการกล่าวหานี้ว่าปราศจากความจริงโดยสิ้นเชิง รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีทางสร้างความรุนแรง นอกจากนั้นแกนนำพรรคเพื่อไทยและนปช.ยังระบุว่ารัฐบาลพยามยามเผยแพร่แผนปลุกระดมเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายในชาติ ซึ่งพรรคจะพยายามค้นหาแผนดังกล่าวว่ามีอยู่จริงแค่ไหน
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 13 เม.ย. แกนนำนปช.พยามยามส่งสัญญาณความรุนแรงมาตลอด เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำนปช. ที่ไปอยู่ต่างประเทศก็ออกมาพูดตลอดว่าจะใช้กระบวนการใต้ดิน โดยที่แกนนำส่วนน้อยก็ไม่ประสงค์ที่จะเห็นบ้านเมืองสงบ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตามพรรคได้ประเมินว่าพื้นที่เสี่ยงจะไม่ใช่สนามหลวงหรือทำเนียบรัฐบาล เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงหรือการจราจลในพื้นที่ชุมนุมหลัก แต่พื้นที่เสี่ยงน่าจะเป็นท่าจอดรถแก๊สหรือปั๊มแก๊ส ท่ารถเมล์ วัดและมัสยิส ดังนั้นหากประชาชนเห็นกลุ่มคนผิดสังเกตก็ขออย่าให้สมาชิกชุมชนเข้าไปเผชิญหน้า เพราะเกรงจะเหมือนเหตุการณ์ที่นางเลิ้งและดินแดง แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ทั้งนี้พรรคมีความเป็นห่วงไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุสุดวิสัยหรือจากการยั่วยุให้เกิดการทำผิดกฎหมาย
“พรรคประชาธิปัตย์ห่วงใยสถานการณ์ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายน ที่แกนนำนปช.บอกว่าจะชุมนุมอย่างสงบแต่เมื่อเกิดเหตุไม่สงบแกนนำนปช.และวีดีโอลิงก์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับไม่ทำให้เหตุการณ์ยุติ แต่กลับเป็นการยั่วยุให้ทำผิดกฎหมาย โดยเรียกร้องให้คนออกมาชุมนุมมากๆ ขณะนี้รัฐบาลได้รับรายงานจากหลายแหล่งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางออกจากตะวันออกกลางและเตรียมเข้าพื้นที่แถบเอเชีย ซึ่งไม่เข้าใจว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ดังนั้นคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่อยากเห็นความไม่สงบ ขอให้มาร่วมเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดปกติและทำให้ประเทศกลับเข้าสู่ความไม่สงบ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่รัฐบาลบอกว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ อยากทราบว่าใครจะเป็นคนมาสร้างสถานกาณ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน ได้กล่าวหาว่าทหารเป็นผู้ทำแผนตากสิน 2 จากทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการวางระเบิดตามวัดหรือมัสยิด ซึ่งพรรคถือว่าเป็นการพูดปลุกระดม หวังสร้างความเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มขึ้นอีก จึงอยากให้ทั้ง 2 คนระบุให้ชัดเจนว่าเจ้าหน่าที่ฝ่ายความมั่นคงดังกล่าวคือใคร ทำเพื่ออะไรไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการพูดเพื่อสร้างความแตกแยก ซึ่งการชุมนุมนั้นนายกรัฐมนตรีกำชับอยู่แล้วว่า ให้ดูแลความสงบและไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงหรือเป็นผู้กระทำก่อนไม่ว่ากรณีใดๆ โดยตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันเดียวกันนี้วอร์รูมของพรรคประชาธิปัตย์ จะเฝ้าระวังอยู่ที่พรรคตลอดการชุมนุม