อนุฯสอบดินแดง เชิญพนักงานขับรถ-จนท.เดินตั๋ว ที่ถูก “หางแดง” ยึดรถแจง ยืนยันพร้อมเพรียงถูกคนเสื้อแดงพร้อมอาวุธยึดรถทำแนวกั้น ขณะที่ “ประธานอนุฯ” ลั่นยอมยกธงขาวสอบสาเหตุการตาย “พลทหาร อภินพ” ชี้ หาหลักฐานไม่พบ พบประเด็นประหลาด “ศิริราช-รามา” ระบุ กะโหลกพลทหารหนาเพียง 1 มิลลิเมตร แค่กระเทือนก็แย่แล้ว ชี้ให้เป็นหน้าที่ของศาลพิจารณาต่อ
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.30 น.มีการประชุมคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มี พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้เชิญ นายวิรัตน์ โชคควัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ขสมก.รวมทั้งพนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่เก็บค่าโดยสารมาชี้แจง โดยผู้ชี้เฉพาะพนักงานขับรถ อาทิ สาย 59, 503, 511 ต่างชี้แจงไปทางเดียวกัน ว่าถูกกลุ่มเสื้อแดงพร้อมอาวุธ อาทิ ไม้ ท่อแป๊บ ขึ้นมายึดรถ และขับไปจอดเป็นแนวกั้นต่างๆ ส่วนการเผารถเมล์ทุกคนต่างยืนยันว่า ไม่เห็นว่าใครเป็นผู้เผารถเมล์ ขณะที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ อนุกรรมการ จากพรรคเพื่อไทย ได้ซักถามและตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด ถึงได้มีการแจ้งความเวลา และสถานที่เดียวกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะรถถูกยึดกันคนละที่คนละเวลา
นายวิรัตน์ แจงว่า เมื่อพนักงานขับรถเกือบทุกคนมีลักษณะดำเนินการคล้ายกัน คือ ถูกบุกยึดและจอดตามสถานที่ต่างๆ จึงได้มีการรวบรวมพนักงานไปแจ้งความพร้อมกันในคราวเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เจาะจงในเรื่องเวลา ดังนั้น ตำรวจจึงใส่เวลาเท่ากันทั้งหมด เนื่องจากจำนวนรถที่ถูกยึดมีจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุเทพ เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบสาเหตุการตายของ พลทหาร อภินพ เครือสุข พลทหารรับใช้ประจำบ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ว่า ขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องรอภาพแอนิเมชันการตายของ พลทหาร อภินพ จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาประกอบการพิจารณาในที่ประชุมก่อน นอกจากนี้ ทางคณะอนุกรรมการยังทราบถึงประเด็นใหม่จากเจ้าหน้าที่นิติเวชของโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี ว่า พลทหาร อภินพ มีกะโหลกที่บางกว่าคนปกติทั่วไป คือ หนาเพียง 1 มิลลิเมตร ต่างจากคนทั่วไปที่หนา 4-5 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องประหลาด น้อยคนมากที่จะพบ ซึ่งกะโหลกบางที่ว่านี้ หากเพียงกระทบอะไรแรงๆ หรือไม่จำเป็นต้องลื่นล้มในห้องน้ำแล้วหัวกระแทก ก็อาจเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่า กรณีพลทหาร อภินพ ทางคณะอนุกรรมการคงทำอะไรไม่ได้ เพราะหาพยานหลักฐานได้ยาก เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ทหาร ซึ่งขอให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลว่าจะตัดสินเช่นใด เราคงได้เพียงแค่เปิดเผยข้อเท็จจริงให้สังคมรับทราบเท่านั้น
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.30 น.มีการประชุมคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มี พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้เชิญ นายวิรัตน์ โชคควัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ขสมก.รวมทั้งพนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่เก็บค่าโดยสารมาชี้แจง โดยผู้ชี้เฉพาะพนักงานขับรถ อาทิ สาย 59, 503, 511 ต่างชี้แจงไปทางเดียวกัน ว่าถูกกลุ่มเสื้อแดงพร้อมอาวุธ อาทิ ไม้ ท่อแป๊บ ขึ้นมายึดรถ และขับไปจอดเป็นแนวกั้นต่างๆ ส่วนการเผารถเมล์ทุกคนต่างยืนยันว่า ไม่เห็นว่าใครเป็นผู้เผารถเมล์ ขณะที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ อนุกรรมการ จากพรรคเพื่อไทย ได้ซักถามและตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด ถึงได้มีการแจ้งความเวลา และสถานที่เดียวกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะรถถูกยึดกันคนละที่คนละเวลา
นายวิรัตน์ แจงว่า เมื่อพนักงานขับรถเกือบทุกคนมีลักษณะดำเนินการคล้ายกัน คือ ถูกบุกยึดและจอดตามสถานที่ต่างๆ จึงได้มีการรวบรวมพนักงานไปแจ้งความพร้อมกันในคราวเดียว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เจาะจงในเรื่องเวลา ดังนั้น ตำรวจจึงใส่เวลาเท่ากันทั้งหมด เนื่องจากจำนวนรถที่ถูกยึดมีจำนวนมาก
พล.ต.ต.สุเทพ เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบสาเหตุการตายของ พลทหาร อภินพ เครือสุข พลทหารรับใช้ประจำบ้านแม่ทัพภาคที่ 1 ว่า ขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องรอภาพแอนิเมชันการตายของ พลทหาร อภินพ จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาประกอบการพิจารณาในที่ประชุมก่อน นอกจากนี้ ทางคณะอนุกรรมการยังทราบถึงประเด็นใหม่จากเจ้าหน้าที่นิติเวชของโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี ว่า พลทหาร อภินพ มีกะโหลกที่บางกว่าคนปกติทั่วไป คือ หนาเพียง 1 มิลลิเมตร ต่างจากคนทั่วไปที่หนา 4-5 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องประหลาด น้อยคนมากที่จะพบ ซึ่งกะโหลกบางที่ว่านี้ หากเพียงกระทบอะไรแรงๆ หรือไม่จำเป็นต้องลื่นล้มในห้องน้ำแล้วหัวกระแทก ก็อาจเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่า กรณีพลทหาร อภินพ ทางคณะอนุกรรมการคงทำอะไรไม่ได้ เพราะหาพยานหลักฐานได้ยาก เนื่องจากอยู่ในเขตพื้นที่ทหาร ซึ่งขอให้เป็นไปตามกระบวนการของศาลว่าจะตัดสินเช่นใด เราคงได้เพียงแค่เปิดเผยข้อเท็จจริงให้สังคมรับทราบเท่านั้น
