“ประจักษ์” ยอมรับ “มนต์แม้ว” ยังขลัง พื้นที่อีสานแดงเถือก

รอง หน.พรรค ภท.มองเลือกตั้งซ่อมสกลฯเป็นศึกระหว่าง “เนวิน-ทักษิณ” ไม่ใช่พรรคการเมืองแข่งขันกันเอง ยอมรับ “มนต์แม้ว” ฝังลึก 7-8 ปี กลายเป็นพื้นที่สีแดง ถือเป็นปัญหาของพรรคที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งอีสานในสมัยหน้า ไม่ยอมเป็นพวก “ขี้แพ้ชวนตี” มั่นใจในสนามจังหวัดใหญ่ยังมีลุ้น

วันนี้ (23 มิ.ย.) นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสกลนคร ที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่ดังกล่าวว่า การหาเสียงในโค้งสุดท้ายตนมองว่าเป็นการหาเสียงที่ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมือง แต่หมายความว่า ถ้าเลือกผู้สมัครเบอร์ 2 นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ก็เหมือนว่าเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถ้าเลือกผู้สมัครเบอร์ 1 นายพิทักษ์ จันทศรี ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคภูมิใจไทย ก็เหมือนเลือกนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กลายเป็นเรื่องของคนสองคนแข่งขันกันไม่ถือว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมืองแข่งขันกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ยังได้ผลในพื้นที่อีสาน โดยพรรคเพื่อไทยที่ทำงานต่อมาพรรคพลังประชาชน ก็ใช้ระยะเวลานานถึง 7-8 ปี ถือเป็นปัญหาของพรรคการเมืองที่จะส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งภาคอีสานและภาคเหนือ ทั้งนี้เราได้ทบทวนจะดำเนินการ หากจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอีก

นายประจักษ์กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องการพิจารณาการถือหุ้นของ ส.ส.61 คน ที่ต้องเตรียมตัว เตรียมยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งซ่อมพื้นที่ยุทธศาสตร์ จังหวัดสกลนครกับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ไม่เหมือนกัน คงต้องรอส่งลงสนามเลือกตั้งใหม่ แม้ว่ากระแส พ.ต.ท.ทักษิณ จะแรงในพื้นที่อีสานก็ตาม ตรงนี้เบื้องต้นที่จังหวัดสกลนครเป็นพื้นที่สีแดง (พื้นที่คนเสื้อแดง) มาก อย่างจังหวัดขอนแก่นก็มีพื้นที่สีแดงบ้าง แต่ประชาชนมั่นใจในตัวของผู้สมัคร จังหวัดใหญ่ๆ ในภาคอีสานตนมองว่า เราน่าจะผ่านสนามตรงนั้นไปได้

นายประจักษ์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการร้องเรียนต่อ กกต.ถึงการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสกลนคร คงไม่ไปร้องเรียน ซึ่งตนยังไม่ทราบว่าคนที่ร้องเรียนเป็นใคร ส่วนตัวกระบวนการตรงนี้จบแล้ว ไม่อยากขี้แพ้ชวนตี แต่ถ้าเป็นคนอื่นไม่ทราบ รู้เพียงมีการร้องเรียน 6-7 เรื่อง แม้ว่าการหาเสียงช่วงแรกการตอบรับไม่ดี แต่ได้แนะนำชาวบ้านว่า หากเลือกครั้งนี้จะสามารถทำงานได้ทันที ซึ่งอีกคนหนึ่งเป็นผู้สมัคร แต่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งประชานก็ตอบรับดีขึ้นมา แต่ช่วงท้ายเจอขบวนการแบบนี้ ไม่คาดคิดว่าชาวบ้านจะมองว่าเป็นการเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ หรือเลือกนายเนวิน ตรงนี้ถือว่าเขาประสบความสำเร็จตรงนี้

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐครอบงำประชาชนหรือไม่ นายประจักษ์ กล่าวว่า การใช้อำนาจรัฐ ต้องดูว่าผู้มาใช้สิทธิอย่าง อ.คำตะกร้า คะแนนเลืกตั้งล่วงหน้ามีคะแนนใกล้เคียงกันกับพรรคเพื่อไทย จะมาพูดว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐไม่ได้ ส่วนการดูแลรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่เป็นเรื่องปกติ ไปดูเรื่องความปลอดภัย

เมื่อถามถึงการรถไฟแห่งประเทศไทยปฏิเสธแผนการการฟื้นฟูกิจการการรถไฟ นายประจักษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ดูแลรับผิดชอบโดยตรง อย่างไรก็ตามจะมีการหารือกันในที่ประชุม ครม.