xs
xsm
sm
md
lg

ล้มประมูลข้าวฉาว ด่านแรกพิสูจน์ “อภิสิทธิ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพิ่งจะตั้งข้อสงสัยกับนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กันไปหมาดๆว่า จะพอ “ฝากผีฝากไข้” ได้หรือเปล่า หลังจากผ่านมา 5-6 เดือนยังไม่ได้โชว์ลูกเด็ดขาดในเรื่องปราบปรามคอร์รัปชั่นออกมาให้เห็นแม้สักครั้งเดียว ตรงกันข้ามมักจะเห็นท่าทีโอนอ่อนผ่อนตามหรือท่าที “ซื้อเวลา” อยู่เสมอ

ถูกมองว่าอ่อนข้อให้กับ “แก๊งขูดรีด”การเมืองเพื่อรักษาอำนาจเท่านั้น !!

แต่เมื่อเห็นท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีที่สั่งล้มประมูลข้าว 2.6 ล้านตันของกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำให้หลายคนเริ่มกลับมาประเมินกันใหม่ และหยุดรอดูอาการอีกระยะหนึ่งก่อนตัดสินใจฟันธงว่างานนี้ “ของจริง” ที่กลั่นออกมาจากใจหรือว่ามีเป้าหมายบางอย่างซ่อนอยู่ข้างหลัง

แต่นาทีนี้เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจก็ต้องบอกว่าเริ่มมีแนวโน้มที่ดี ทำให้มีความหวัง มาก ขึ้น อย่างไรก็ดีต้องรอพิสูจน์อีกสักด่านสองด่านใหญ่ๆถึงจะสรุปได้ เพราะที่ผ่านมาเคยถูกตั้งคำถามเอาไว้พอสมควร มันจึงช่วยไม่ได้ที่ทำให้กองเชียร์บางส่วนเกิดความลังเล

หากเน้นเฉพาะเรื่องประมูลข้าวของกระทรวงพาณิชย์จำนวน 2.6 ล้านตัน ที่ก่อนหน้านี้มีเสียงวิจารณ์กันขรมว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างเอกชนกับนักการเมือง โดยลักษณะจะออกมาในแบบรัฐยอมขายให้ในราคาต่ำกว่า ราคาตลาดแล้วให้เอกชน นำไปส่งออกขายในราคาสูง เพื่อกินกำไรจากราคา “ส่วนต่าง” ให้มากที่สุด

ซึ่งวิธีการ “ฮั้ว” ดังกล่าวทำให้นักการเมืองและเอกชนฟันกำไร แต่รัฐขาดทุนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องนำทีมซักไซ้ พรทิวา นาคาศัย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์อย่างละเอียดยิบในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จนมีข่าวว่ามีรัฐมนตรีบางคนถึงกับ “น้ำตาร่วง” กลางวงกันเลยทีเดียว

ขณะเดียวกันก็มอบหมายให้รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เข้าไปดูแล พร้อมทั้งให้ทบทวนการระบายสินค้าเกษตรอื่นๆ ให้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีแทนที่จะเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์เหมือนในอดีต ซึ่งก็รวมไปถึงโครงการประมูลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวน 4.4 แสนตัน มูลค่า 2,041 ล้านบาท ที่ผลออกมาในลักษณะเดียวกัน

แต่ก็ “ไม่สะเด็ดน้ำ” เสียที แม้จะมีการตั้ง สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เข้าไป “เคลียร์” อีกแรงหนึ่ง ทุกอย่างก็ยังคาราคาซัง

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาหลายด้านถือว่างานนี้ไม่ธรรมดา อย่างแรกเป็นการโชว์ “ภาวะผู้นำ” ให้เห็นว่าสิ่งไหนก็ตามที่สั่งลงไปแล้วต้องเด็ดขาด ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามนโยบาย ต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี

แต่อีกมุมหนึ่งถือว่า มีความ “พร้อมชน” ทุกกรณี เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า งานนี้ “เดิมพัน” สูงไม่น้อย แต่ละฝ่ายต่างก็มีแบ็กหนุนหลัง ฝ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จากพรรคภูมิใจไทยในซีกของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ถือว่ามีความเป็นมาไม่ธรรมดา
และที่สำคัญ การสั่งล้มประมูลข้าวดังกล่าวทำให้มีฝ่ายที่เสียประโยชน์ เสียรายได้จำนวนไม่น้อย

นอกจากนี้ในอนาคตอาจต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มธุรกิจค้าข้าว ซึ่งในวงการก็รู้ว่าเข้าขั้น “มาเฟีย” เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมืองมาตลอด และที่ผ่านมาก็เคยเห็นฤทธิ์เดชกันมาแล้ว เมื่อครั้งที่มีการสั่งทบทวนนโยบายเกี่ยวกับสินค้าเกษตรฯเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่มีม็อบชาวนาในภาคเหนือ ภาคกลางปิดถนนกันจนปั่นป่วนมาแล้ว

ดังนั้นการที่นายกฯอภิสิทธิ์ กล้า “หัก” แบบนี้ก็ย่อมถือว่ามี “แต้มต่อ” หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องตั้งมั่นอยู่บนผลประโยชน์ของชาวบ้านเป็นหลัก เมื่อเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลก็ต้องยืนยันในหลักการสั่งยกเลิกทันที โดยไม่สนใจว่าผลที่จะตามมาจะส่งผลถึงอนาคตทางการเมืองของตัวเองจะเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะมาในมุมไหนก็ตาม คำสั่งล้มการประมูลขายข้าวขาดทุนของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวถือว่าทำให้สังคมได้กลับมา “จับตา” บทบาทในทางการเมืองของเขาอีกครั้ง โดยเฉพาะในแง่ของภาวะผู้นำที่ยึดมั่นในการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมให้มากที่สุด โดยไม่สนใจกลุ่มการเมืองที่ค้ำจุนรัฐบาลอยู่

และแม้ว่าเริ่มจะมีแนวโน้มในทางบวกดังกล่าวข้างต้น แต่ทุกอย่างก็ต้องมองในภาพรวม และต้องพิจารณากันยาวๆอีกสักสองสามกรณีหลักๆ ว่าจะยืนหลักการแบบนี้ได้อีกหรือไม่

ยังต้องรอพิสูจน์กันต่อไป !!

กำลังโหลดความคิดเห็น