“มาร์ค” แย้มแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นการจัดเก็บภาษี ส่งเสริมโครงการขนาดเล็ก ย้ำไม่เอารัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหุ้น 24 มิ.ย.นี้ เตรียมไปจีน หารือเรื่องการร่วมลงทุนสร้างรถไฟรางคู่
วันนี้ (18 มิ.ย.) ณ หอประชุมศาสตราจารย์ สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถา เรื่อง การแก้วิกฤตเศรษฐกิจ และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
โดยระบุว่า หากเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น เศรษฐกิจไทยก็ไม่สามารถฟื้นได้ ด้วยสาเหตุจากเป็นระบบเปิดที่ผูกติดกับเศรษฐกิจโลก โดยภาครัฐจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเน้นการจัดเก็บภาษี และใช้จ่ายภาครัฐ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาในระยะยาว ลดความเสี่ยงของเศรษฐกิจ และสร้างภูมิคุ้มกันด้วยโครงการขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นทั่วประเทศ
ที่ผ่านมา ได้แก้ปัญหาด้วยการลงทุนขนาดใหญ่ แต่เมื่อเกิดการผิดพลาด จึงกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวม อาทิ โครงการอีลิทการ์ดที่ตั้งเป้าว่าจะมีสมาชิกกว่าล้านคน แต่กลับมีเพียง 2,000 คน กลายเป็นภาระงบประมาณแผ่นดินทุกปี และหลายๆ โครงการในอดีตที่ล้มเหลว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่มีนโยบายนำรัฐวิสาหกิจเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค แต่จะต้องมีการปรับโครงสร้างให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก่อน เช่น รถไฟ รถเมล์ พลังงาน เพราะรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ผูกขาด
แม้ว่าจะทำกำไรได้มาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า กำไรจะกลับคืนสู่ประชาชนและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นแม้ว่าอาจจะทำให้มูลค่าของรัฐวิสาหกิจในการเข้าระดมทุนลดลง แต่ก็คุ้มค่าเพราะประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีหน้าที่ให้ภาคเอกชนหาเงินมาลงทุนภายในประเทศ โดยนายกรัฐมนตรียังเชื่อว่า ในโอกาสที่จะเดินทางไปเยือนจีน ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ จะได้หารือถึงความร่วมมือในการลงทุน โดยเฉพาะโครงการรถไฟรางคู่ เชื่อว่าจีนจะสนใจร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว