“ปฐมพงษ์” อัด “บิ๊กป๊อก” เห็นนิ่งนึกว่าฉลาด ที่แท้งมโข่งแก้ปัญหาไฟใต้

“ปฐมพงษ์” สุดแค้นใจ เห็นชาวบ้าน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถูกเข่นฆ่า อัด “บิ๊กป๊อก” เคยคิดว่านิ่งแก้ปัญหาไฟใต้เพราะฉลาด ที่ไหนได้ไม่เป็นนักรบอย่างแท้จริง เผย ผบ.ทบ.ลงพื้นที่แค่วันเดียว ไปนั่งประชุมแล้วก็กลับ ไม่คิดคลุกคลีลูกน้อง และ ปชช.ในพื้นที่ แนะให้ลงไปอยู่ภาคใต้อย่างน้อย 1 เดือน จะได้เข้าใจหัวอกคนที่นั่น ซัดการซื้อเรือเหาะหวังแก้ปัญหาไฟใต้เป็นการสิ้นเปลือง ภาคใต้เป็นป่าเขา ไม่เหมาะใช้ ตอกใช้อะไรคิด ไปเอาไอเดียมาจากถ่ายทอดกอล์ฟในต่างประเทศหรือไง บ่นเสียดายตอนรับราชการ ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบดับไฟใต้โดยตรง ไม่เช่นนั้น คงทำประโยชน์ให้กองทัพมากกว่านี้ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็ยินดีทำเพื่อชาติ

วันนี้ (16 มิ.ย.) พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษา บก.กองทัพไทย และที่ปรึกษาแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ตนรู้สึกเศร้าใจและคับแค้นใจ อยากร้องไห้เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทางกองทัพไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่กลับพูดอยู่ได้ว่า มาถูกทางแล้ว ซึ่งอันที่จริง คือ มาถูกในทางที่ผิดต่างหาก

“เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.นิ่งเงียบสุขุมนั้น เพราะเป็นคนฉลาด แต่มาวันนี้รู้แล้วว่า การที่อยู่เฉยๆ เป็นเพราะไม่รู้อะไรเลยต่างหาก ซึ่งผมรู้สึกผิดหวังมากกับการแก้ปัญหาภาคใต้ของกองทัพ ที่มีผู้นำไม่ได้เป็นนักรบอย่างแท้จริงเลย” พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนได้รับทราบข้อมูลต่างๆ จากทหาร ซึ่งลูกน้องในกองทัพที่ยังอยู่ในพื้นที่ โดยต่างเอือมระอากับการแก้ปัญหาภาคใต้ ที่ พล.อ.ประวิตร ไม่ค่อยได้ลงพื้นที่เลย ทั้งที่เป็นความรับผิดชอบของตนเองโดยตรง สำหรับ พล.อ.อนุพงษ์ ที่ลงไปแค่วันเดียว ก็ไปเช้าเย็นกลับ ได้แต่ไปนั่งประชุมรับทราบบรรยายสรุปเท่านั้น

“ผมเสนอว่าทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ลงไปอยู่ที่ภาคใต้เลยอย่างน้อย 1 เดือน โดยไปกินไปนอนร่วมกับลูกน้อง จะได้รู้เรื่องจริงที่เกิดขึ้นมากขึ้น และจะได้รู้หัวอกความรู้สึกของทั้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และทหาร ซึ่งเป็นลูกน้องของตัวเอง ถ้าแค่ลงพื้นที่อาทิตย์ละครั้ง ไม่ได้อะไรหรอก อย่ามัวแต่มาอยู่ในกรุงเทพฯ และสนใจแต่การเมือง และคิดหาทางว่าทำอย่างไรให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ได้นานๆ มันไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพ” พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ยิ่งเวลานี้กองทัพมีความแตกแยก เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.ก็เอาแต่พรรคพวกของตัวเอง อะไรๆ ก็เอาแต่พวกที่มาจาก พล.ร.2 รอ.(กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์) มาด้วยกัน ไม่เห็นถึงความสำคัญของทหารจากหน่วยอื่นๆ จนเป็นที่รู้กันว่า ถ้าใครไม่ได้มาจาก พล.ร.2 รอ.ก็จะไม่ได้เติบโต

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนอายุ 61 ปีแล้ว เกษียณแล้ว แต่ยังมีความห่วงใยกองทัพและชาติบ้านเมืองอยู่ โดยเฉพาะปัญหาภาคใต้ ถ้าเป็นไปได้ หากตนช่วยอะไรได้ หรือจะให้ลงไปช่วยทำงานก็สามารถบอกได้ แม้แต่จะให้เป็นนักรบก็ได้ เพราะแม้จะเป็นการเมืองนำการทหาร แต่ก็ต้องมีการปฏิบัติการเชิงรุกในเชิงยุทธการ ไม่ใช่เป็นฝ่ายตั้งรับอยู่อย่างเดียว ออกไปทำงานก็กลายเป็นเป้า ดังนั้น ต้องมีการปรับรูปแบบ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ใช่เป็น เพราะตนอยากจะมีตำแหน่งอะไร แต่ตอนนี้พวกตนและเพื่อนๆ เตรียมทหารรุ่น 7 ได้ตั้งกลุ่ม แต่ไม่ได้คิดเล่นการเมือง แต่เพื่อดูแลกองทัพ การนำเงินจากการที่มีบริจาคและเงินส่วนตัวไปซื้อของที่ทหารชายแดนต้องการ แล้วนำไปให้เพราะต้องการดูแลขวัญและกำลังใจของทหาร เนื่องจากที่ผ่านมากองทัพบกไม่ได้ดูแลทหารดีเท่าที่ควร โดยสิ่งนี้เอง คือ สิ่งที่พวกเราทหารเกษียณจะทำได้

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่ กอ.รมน.ที่ซื้อเรือเหาะ หรือบอลลูน จากสหรัฐอเมริกา โดยใช้งบประมาณสูงถึง 350 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาภาคใต้ ว่า เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่าเลย เพราะเรือเหาะนั้นบินสูงกว่า 3 กิโลเมตร จะทำอะไรได้ แม้จะมีกล้อง แต่ก็ผิดพลาดได้ง่าย ยิ่งในสภาพภูมิประเทศของภาคใต้นั้นเป็นป่าเขา จะมองอะไรจากที่สูงมากก็มองไม่เห็นแน่นอน รวมทั้งบอลลูนเหมาะกับการเป็น บก.ลอยฟ้า ที่เหนือเมือง เพื่อไว้ดูเวลาเกิดเหตุแล้ว ว่าคนร้ายจะหลบไปทางไหน แต่ก็ต้องทันเหตุการณ์ และระบบภาคพื้นต้องสมบูรณ์ดีทุกอย่าง นอกจากนี้ โรงเก็บบอลลูนจะเสี่ยงต่อการถูกลอบทำลายจากขบวนการผู้ก่อความไม่สงบ ไม่ว่าจะเก็บไว้ที่ 3 จังหวัด หรือที่ จ.สงขลา ก็ตาม เพราะมันเป็นเป้าที่ผู้ก่อการร้าย ต้องการจะทำลายแน่นอน อีกทั้งการเก็บรักษาก็ไม่ง่าย และเสื่อมสภาพเร็ว นอกจากนี้ ผู้ก่อการร้ายคงต้องหาวิธีจัดการบอลลูนอย่างแน่นอน เนื่องจากมันจะเป็นสิ่งท้าทาย อย่าลืมว่า ตอนที่ถูกปล้นปืนที่กองพันพัฒนา 4 จ.นราธิวาส เมื่อปี 2547 นั้น จรวดอาร์พีจี 7 ลูก ที่หายไปยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ที่ไหน

“ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของความคิด ควายหรือเปล่า แก้ปัญหาภาคใต้แบบนี้ ประชาชนที่ไหนจะฝากความหวังไว้ได้ คงเป็นพวกบิ๊กทหารที่ชอบเล่นกอล์ฟ เห็นฝรั่งเขาใช้บอลลูนถ่ายทอดสดการแข่งกอล์ฟ ก็เลยเกิดไอเดีย ทั้งๆ ที่มันคนละเรื่อง สนามกอล์ฟมันโล่ง หรือที่สหรัฐฯ ใช้ในสงครามทะเลทราย ก็เพราะมันโล่งมองเห็น แต่นี่ภาคใต้ป่าทั้งนั้นจะเห็นอะไร เสียดายงบประมาณเปล่าๆ” พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว

พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกเสียดายที่ตอนรับราชการอยู่ใน ทบ.ไม่มีโอกาสได้มีตำแหน่งหน้าที่ ในการนำแก้ปัญหาในกองทัพ ไม่เช่นนั้น ตนจะทุ่มเทแก้ปัญหาได้มากกว่านี้ ตอนนั้นยังลงไปนอนกับทหารลูกน้องในพื้นที่ ในฐานทหารเลย จึงได้รู้ถึงความรู้สึก