xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป๊อก” ย้ำทหารเข้าถึง ปชช. ลั่นไม่เจรจาคนร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
ผบ.ทบ.กำชับทหารเน้นเข้าถึงชาวบ้านควบคุ่การพัฒนา เชื่อโครงการ “เทพเทือก” เอาชนะใจคนใต้ได้ ลั่นไม่ใช้กำลังปราบปราม แต่ไม่คิดเจรจาผู้ก่อการร้าย

วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกผู้นำหน่วยทหารขนาดเล็กที่จะลงไปปฏิบัติภารกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ค่ายธนะรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ตนจะไปดูกำลังพลที่เตรียมจะลงไปในพื้นที่

เผยโดยพื้นฐานการฝึกของทหารจะเป็นไปตามระเบียบกองทัพบก แต่ทหารที่ลงพื่นที่ภาคใต้เราจะฝึกการรบอีกรูปแบบหนึ่ง ประกอบกับต้องมีความรู้ทั่วไปทั้ง ศาสนา วัฒนธรรม กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประสบการณ์และบทเรียนในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะให้กำลังพลได้เรียนรู้ ส่วนนโยบายปฏิบัติต้องเข้าไปในพื้นที่ โดยเบื้องต้นจะชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้กำลังพล ก่อนเข้าไปเรียนรู้มากขึ้นในพื้นที่

เมื่อถามว่า จากการลงพื้นที่ภาคใต้จะมีการกำชับอะไรกับกำลังพล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า แนวทางขณะนี้มาถูกต้องแล้ว ซึ่งแนวทางที่ปฏิบัติคือเราใช้การเมือง ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทุกมิติ เช่น เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ทุกมิติเราใช้การปฏิบัติลักษณะนี้ เพื่อไปกรองจิตใจคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นคนบริสุทธิ์ ส่วนคนที่ก่อความไม่สงบเราใช้การปฏิบัติในลักษณะที่สามารถสร้างความเข้าใจได้ ส่วนคนผิดเราก็ใช้กฎหมายดำเนินการ คนที่พบแล้วมีอาวุธก็ปฏิบัติการทางทหาร ขณะนี้ทำทั้ง 2 แนวทางทั้งการสร้างความเข้าใจในการพัฒนาและการปฏิบัติต่อกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้อง การที่จะใช้กำลังทหารไปปราบปรามทำไม่ได้

“ยกตัวอย่างเราเคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ทั่วประเทศ การปฏิบัติการครั้งนั้น เรียกว่าประกาศสงครามยาเสพติดมียอดผู้เสียชีวิตประมาณ 2,500 คน ทำให้เกิดปัญหาสิทธิมนุษยชน ปัญหาอื่นตามมามากมาย ซึ่งยังไม่มีปัญหาเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หากเราทำในลักษณะนี้ในพื้นที่ภาคใต้จะมีปัญหาแทรกซ้อนตามมาทั้ง วัฒนธรรมและศาสนา และองค์กรต่างประเทศจะไม่นิ่งเฉยได้ ตราบใดที่เราใช้การเมืองแก้ปัญหา การจะเปลี่ยนจิตใจคนใช้เวลาแน่นอน ไม่ว่าพยายามทำอย่างไร เชื่อมั่นว่าคนส่วนใหญ่ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เข้าใจและยอมรับอำนาจรัฐ สามารถพูดคุยกันได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นเพราะคนส่วนน้อย ก็ต้องหามาตรการซึ่งการที่เขานำระเบิดขวางรถเมล์ ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่เราก็ต้องเข้าไปหาทางแก้ปัญหา แต่ยิ่งเราไปรักษาความปลอดภัยจุดอื่นมากขึ้น เขาก็ยิ่งดึงกำลังทหารออกไปจากพื้นที่สำคัญ หากเราต้องไปดูรถเมล์ทุกคันยอมรับว่าหนักพอสมควร แต่ทหารมีการศึกษาสิ่งที่ต้องทำต่อเนื่อง คือ อยู่กับคนอีก 2 ล้านคนเป็นหลักให้ได้ หากเราถอยออกมาดูตามถนน คงทำให้แนวทางภาพใหญ่ 2 แนวทางมีปัญหา เราจึงต้องอยู่กับประชาชนและนำโครงการที่นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงไปสู่ประชาชนตามงบประมาณพัฒนาภาคใต้ เชื่อว่าจะดึงจิตใจคนกลับมาได้

เมื่อถามว่า 3 ปีที่นายสุเทพคาดหวังไว้จะกดดันเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การเอาชนะจิตใจคนอาจกำหนดได้โดยแผนงาน ซึ่งต้องทำความเข้าใจและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถามว่าหมด 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ คงต้องทำไปประเมินไป ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะเลือกวิธีนี้ที่จะสร้างความเข้าใจ เพราะทั่วโลกยอมรับในจุดนี้คือทำความเข้าใจ ไม่ใช้มาตรการกฎหมายด้านการทหาร แต่คิดว่าแนวโน้มน่าจะเกิดผลสำเร็จ

เมื่อถามว่าจะหาตัวคนร้ายที่ยิงมัสยิดได้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเราดำเนินการตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐานที่มี คงพูดอะไรมากไม่ได้เดี่ยวเป็นประเด็นจ้องเอาใครมา หากทำอะไรไม่อยู่บนพยานหลักฐานตามกฎหมาย ทุกคนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์ สภาพแวดล้อมพื้นที่และบุคคล

เมื่อถามว่า แนวทางพูดคุยกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังมีแนวทางใช้อยู่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ตอบว่า Yes หรือ No สำหรับทหารเราทำได้ตามกฎหมายที่มี หากเป็นขบวนการแบกแยกดินแดนกฎหมายตามรัฐธรรมนูญก็ทำไม่ได้ ส่วนที่ก่ออาชญากรรมกับประชาชนในการวางระเบิดหรือการยิงคนผิดกฎหมายอาญา เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถใช้การเจรจาได้เลย ไม่ว่าใครทั้งสิ้นต้องว่าตามกฎหมาย หากผิดเพียงแค่โรยตะปูเรือใบ ก็มีขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมที่จะกันไว้เป็นพยาน ส่วนการเจรจานอกเหนือจากนี้คงทำไม่ได้ตามหลักกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น