“สนธิ”เผยวงในรู้ตัวคนลอบสังหารหมดแล้ว แต่คดีไม่คืบ เพราะมีการขัดขวางการทำงานของ “ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” รอง ผบ.ตร. เผยส่วนตัวอโหสิกรรมให้คนทำทั้งหมด จะจับคนร้ายได้หรือไม่ รู้สึกเฉยๆ เพราะถือว่าตายไปแล้ว ขอเกิดใหม่เพื่อสร้างชาติ สร้างการเมืองใหม่ ย้ำ พันธมิตรฯ ยังมีสิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ แม้มีพรรคของตัวเอง เปรยหากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ขอคิดดูก่อนจะวางบทบาทอย่างไร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการ “คนในข่าว”
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “คนในข่าว” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 มิ.ย.ถึงความคืบหน้าคดีที่เขาถูกลอบสังหารว่า ในทางการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดย พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แย้มๆ ออกมาว่าทหารเป็นคนยิง แต่ในทางลับนั้นมีความพยายามขัดขวางการทำงานของ พล.ต.อ.ธานี มีนายพลคนหนึ่งที่พูดว่าคดีจะจบใน 7 วันก็ถูกผู้ใหญ่ในเครื่องแบบเรียกพบและให้หยุดการสืบสวนสอบสวน ขณะเดียวกันมีการข่มขู่นายตำรวจที่ทำคดียศ พ.ต.อ.คนหนึ่งว่า เดี๋ยวจะไม่ได้เป็นนายพล นี่เป็นการเมืองเก่า ตนเป็นสื่อมวลชนและนั่งรถมาตอนเช้าเพื่อมาพูดเรื่องชาติบ้านเมืองให้พี่น้องฟังแต่ถูกยิงถล่มด้วยปืนกล พอนายตำรวจจะทำคดีก็ถูกขัดขวาง ซึ่งถ้าตนถูกยิงตายแล้วจับใครไมได้อีกหน่อยใครไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนก็ถูกยิงได้ มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
นายสนธิ กล่าวต่อว่า โดยส่วนตัว ยอมอโหสิกรรมให้กับคนที่ทำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งคนในวางการตำรวจทหารข้ารู้ว่าใคร เป็นพวกมีสีมาจากแถวไหน มากี่คน วางแผนยังไง เขารู้กันหมด
“แต่มันมีปัญหา สมมุติว่ามีการออกหมายจับว่าทหารยิงผมทั้งหมด 14 คนแล้ว หลังจากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เป่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมท่านจะว่ายังไง แต่ผมอโหสิกรรมทั้งหมดแล้ว พวกที่วางแผนฆ่าไม่รู้ว่าท่านคือใครนะ แต่ผมกรวดน้ำให้แล้ว และอยากจะชี้ให้เห็นว่าถ้าการทำคดีถูกขัดขวาง เมืองไทยมันไม่มีความหวังอีกแล้ว มันเลวร้ายสุดๆ ไม่มีครั้งไหนจะเลวร้ายกว่านี้แล้ว”
อย่างไรก็ตาม นายสนธิกล่าวว่าจะจับคนทำได้หรือไม่ได้ ตนรู้สึกเฉยๆ เพราะถือว่าทุกอย่างที่อยู่ในระบบเก่ามันใช้ไม่ได้แล้ว ทุกวงการไปไมได้แล้ว เราต้องสร้างชาติขึ้นมาใหม่ ซึ่งยาก แต่ต้องสร้างบนพื้นฐานคุณธรรมจริยธรรม และต้องสร้างโดยไม่กลัวตาย
“ผมถือว่าผมตายไปแล้ว และเกิดใหม่ขึ้นมาเพื่อสร้างชาติ เพราะตอนนี้มันไม่มีชาติไทยเหลืออีกแล้ว มันมีแต่ชาติไทยที่ยอมให้รถเมล์ 4 พันคันผ่านเพื่อให้มีการโกงกิน ชาติไทยที่มีการผ่านโครงการขยายสนามบินแล้วกินกันเป็นหมื่นล้านผ่าน เป็นชาติไทยที่เงินซื้อได้”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ ได้ตอบคำถามประเด็นที่ว่าเมื่อมีพรรคการเมืองใหม่แล้ว พันธมิตรฯ ไม่ควรจะออกมาเคลื่อนไหว ว่า เป็นการเข้าใจผิด ตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังให้สิทธิ พันธมิตรฯ ก็มีสิทธิที่จะแสดงออก เพราะพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือหนึ่งเท่านั้น และพรรคไม่ใช่เจ้าของพันธมิตรฯ แต่พันธมิตรฯ ต่างหากที่เป็นเจ้าของพรรค และพันธมิตรฯ ไม่ได้เข้าไปเล่นการเมืองทั้งหมด พันธมิตรฯ มีมติให้ตั้งพรรคเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่เสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญและมีความสามารถได้เข้าไปสร้างการเมืองใหม่ แต่พันธมิตรฯ ยังเป็นภาคประชาชนอยู่ แต่ถ้าเมื่อใดที่พรรคซึ่งพันธมิตรฯ ตั้งขึ้นมา มีการกระทำที่ผิดเพี้ยนไปจากอุดมการณ์ 4 ข้อนี้ เราก็ไม่เอาพรรคนั้น
นายสนธิกล่าวถึงบทบาทของตนเองในพรรคการเมืองใหม่ว่า จะวางบทบาทตามที่สมาชิกพรรคต้องการ เมื่อใดก็ตามที่มีการประชุมสมาชิกพรรค เลือกกรรมการบริหารพรรค เลือกหัวหน้าพรรค ซึ่งยังไม่ทราบว่าเขาจะเลือกใคร ตนก็จะสนับสนุนทุกคน
“ถ้าเขาเลือกผม ผมก็จะขอคิดดูก่อน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รับ แต่จะคิดดูก่อนว่าจะช่วยเขาในรูปแบบไหน การเป็นหัวหน้าพรรคนั้นไม่ง่าย แต่ก็มีหลายมิติ เป็นหัวหน้าพรรคแล้วไม่ลงเลือกตั้งก็ได้ แต่จะชูธงยึดมั่นอุดมการณ์ ส่งเสริมให้คนดีให้เข้าไปก็ได้ ทำหน้าที่ปิดทองหลังพระ ซึ่งมันมีหลายรูปแบบ รอถึงให้ถึงวันนั้นก่อนก็แล้วกัน”นายสนธิกล่าว
อ่าน คำต่อคำ"สนธิ ลิ้มทองกุล"ให้สัมภาษณ์รายการ"คนในข่าว"
