xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สารภาพบริหารไม่ราบรื่น พูดเป็นนัยไม่กล้าเหยียบหัวพรรคร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“อภิสิทธิ์” ยอมรับการบริหารบ้านเมืองบนพื้นฐานต่างความความคิด อาจไม่ราบรื่นนัก แต่จะคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และต้องชี้แจงต่อสาธาณชนให้เกิดความโปร่งใส พร้อมรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ พูดเป็นนัยไม่กล้าเหยียบหัวพรรคร่วมแน่นอน

วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย วิจารณ์ว่านโยบายการประกันราคาพืชผลจะทำให้รัฐบาลขาดทุน 100 ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ควรให้ใช้คอนแทค ฟาร์มมิ่ง ว่า มาตรการอื่นๆ เช่น การสนับสนุนให้นำสินค้าเกษตรไปแปรรูปโดยมีสัญญาอะไรต่างๆ ต้องทำอยู่แล้ว แต่มีปัญหาเพียงคือกรณีที่ต้องการเข้าไปแทรกแซงราคาจะทำวิธีใด อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา การแทรกแซงด้วยวิธีใดรัฐก็ขาดทุนอยู่แล้ว แต่จะดูว่าวิธีใดเป็นภาระน้อยที่สุดและไม่ทำให้ตลาดมีปัญหา ซึ่งผู้ที่ศึกษาส่วนใหญ่ค่อนข้างสนับสนุนแนวทางการอิงกับระบบประกัน ทั้งนี้ ตนกำลังรอกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์เสนอรูปแบบเข้ามาอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การจำนำสินค้าเกษตรนั้น ถ้าทำเหมือนในอดีตที่เป็นการจำนำในราคาที่ไม่สูงกว่าตลาดเพียงเพื่อไม่ให้สินค้าทะลักเข้าสู่ตลาดในเวลาเดียวกัน ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าเป็นการจำนำในราคาที่สูงกว่าตลาด ไม่ใช่เป็นการจำนำ แต่เป็นการรับซื้อ นอกจากนี้ ระบบจำนำเดิมที่ไม่ได้ฝืนตลาด แม้ราคาต่ำแต่ก็ช่วยคนที่เข้าและไม่ได้เข้าโครงการ เพราะมันดึงราคาขึ้น แต่ระบบที่เรารับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาด เกษตรกรที่ได้รับประโยชน์คือคนที่สามารถเข้ามาร่วมโครงการได้ ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าโครงการ ไม่ได้รับประโยชน์ เพราะมันไม่สามารถดึงราคาตลาดขึ้นมาได้ ทั้งนี้ ถ้าเราบริหารจัดการ จะมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในการทำความเข้าใจกับประชาชนต่อระบบใหม่ดังกล่าว ต้องรอให้ตัวระบบใหม่มีรายละเอียดมีความชัดเจน โดยตนได้มอบหมายให้นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ไปเร่งทำอยู่

เมื่อถามว่าคิดว่าเป็นการทำชาวนามาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองกับรัฐเพื่อช่วยผู้ที่เสียประโยชน์ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ แต่เราต้องมีตัวเลขยืนยันชัดเจน ซึ่งกำลังขอเข้ามาทั้งหมด และดูว่าการแทรกแซงแต่ละรูปแบบนั้น จำนวนคนที่ได้ประโยชน์มากน้อยต่างกันอย่างไร รวมถึงภาระของรัฐจะต่างกันอย่างไร นอกจากนี้ ตนจะเอาความเข้าใจชนะความไม่เข้าใจ เมื่อถามต่อว่าในพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่าการแทรกแซงดีกว่าการประกันราคา รวมถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าตอนนี้กำลังอึดอัดกับการทำงานร่วมกับรัฐบาล เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาแลกเปลี่ยนกันได้ ไม่มีปัญหา

“ต้องเข้าใจว่ามันคงมีประโยชน์ของหลายๆกลุ่ม ทั้งผู้บริหารโครงการ พ่อค้า อะไรต่างๆ มันมีหลายฝ่ายเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่เราต้องหาคำตอบและต้องยืนยันคืออะไรที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกร”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ต่อข้อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ดักจับงานของพรรคร่วมรัฐบาลไปเป็นผลงานของตัวเอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดักจับอะไร ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ดักจับแปลว่าอะไร เมื่อถามต่อว่าหมายถึงจับผิด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรจับผิด ทุกโครงการที่เข้ามาก็มีการกลั่นกรองทั้งนั้นไม่ว่าจะของพรรคใด ทุกอย่างจะเกิดได้หรือไม่นั้นอยู่ที่เหตุผลและประโยชน์ของส่วนรวม แต่ถ้าจะเอาเรื่องอื่นเข้ามา เช่น เรื่องการเมือง ผลประโยชน์ของกลุ่มใด ตนคิดว่าคงไม่ได้และจะไม่ยอม ทั้งนี้ ตนคิดว่ามีบางฝ่ายที่คิดว่าระบบที่ทำอยู่ดีที่สุด ก็ต้องมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันด้วยเหตุผล ซึ่งได้มีการพูดคุยกับฝ่ายพรรคภูมิใจไทยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ซึ่งในวันนั้นไม่มีใครโต้แย้ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาการที่รัฐมนตรีไม่พูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและการประชุมคณะกรรมการ แต่กลับออกมาพูดข้างนอก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามตนพูดและไม่ทราบสาเหตุด้วยที่มักจะมีการนำความขัดแย้งภายในคณะรัฐมนตรีไปพูดนอกห้องประชุม ทั้งที่ในการประชุมไม่เคยมีความเห็นที่แตกต่าง ทั้งนี้ แม้จะไม่มีอะไรราบรื่น แต่ก็ไม่มีอะไรกดดัน รวมทั้งยังไม่มีการเหยียบหัวเพื่อนขึ้นเป็นใหญ่ ตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อถามต่อว่าปัญหาอย่างนี้จะทำให้นโยบายเดินไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายต้องเดินต่อไป เมื่อถามย้ำว่ายังคิดว่าการประกันราคาจะทำได้ในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ทำในส่วนของมันสำปะหลังแล้ว ส่วนสินค้าเกษตรตัวอื่นๆกำลังดูรายละเอียดโครงการที่จะเสนอเข้ามา

เมื่อถามว่ามองอย่างไรต่อท่าทีของสมาชิกอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนที่ออกมาวิจารณ์รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ อะไรที่มีเหตุผลตนก็รับฟัง ส่วนอะไรไม่เข้าใจก็ต้องชี้แจงกันไป เมื่อถามต่อว่าทำไมจึงไม่มีการคุยกันภายในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ออกมาพูดกันข้างนอก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องไปถามคนพูด

เมื่อถามย้ำว่าช่วงนี้มีแรงกดดันมากเป็นเพราะตอนนี้ร่างกฎหมายเงินจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าไม่มีอะไรกดดัน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เหยียบหัวเพื่อนขึ้นไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี จะไปทำอย่างนั้นทำไม

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยพยายามดูดส.ส.จากหลายพรรคเข้ามา เพื่อให้มีจำนวน ส.ส.มากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องมีการทำงานของตัวเอง พรรคการเมืองก็ต้องการความเติบโต นักการเมืองก็ต้องตัดสินใจว่าจะอยู่กับใคร ซึ่งเป็นธรรมดา เมื่อถามต่อว่าจำนวนส.ส.มากขึ้นจะส่งผลกระทบต่อจำนวนเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะไม่ได้จัดตามโควต้าอยู่แล้ว เพราะถ้าจัดตามโควต้า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องได้มากกว่านี้หลายตำแหน่ง เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นแรงกดดันหรือแรงต่อรองของพรรคภูมิใจไทยมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีประเด็น

ต่อข้อถามว่าพรรคเพื่อไทยโจมตีว่าการที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ไปลงพื้นที่หาเสียงช่วยในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ที่ จ.สกลนคร เป็นการใช้อำนาจรัฐเอื้อการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าเวลาลงพื้นที่ลงในลักษณะใด ถ้ามีการใช้อำนาจไม่ถูกต้อง ก็สามารถร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ เมื่อถามว่านายกฯมีแนวคิดที่จะไปอยู่กับชาวบ้านเหมือนที่พรรคภูมิใจไทยทำ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ เราทำอยู่เป็นระยะๆมาตั้งแต่อดีต ทั้งนี้ การลงพื้นที่พบประชาชน ตนกำลังดูว่าเดือน ก.ค.นี้หลังจากเดินทางเยือนกลุ่มประเทศอาเซียนและจีน รวมถึงเรื่องของสภาฯเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะลงพื้นที่พบประชาชนในภาคใดเป็นที่แรกนั้น คงแล้วแต่งาน
กำลังโหลดความคิดเห็น