“โฆษกมาร์ค” เย้ยเพื่อไทย แค่โหรรายเดือน ทำนายอายุรัฐบาลไปเรื่อยๆ ชี้ แค่หวังพยายามกดดันรัฐบาลให้ยุบสภาทุกวิถีทาง ทั้งที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาประเทศไปด้วยดี ท้ากลับหากยุบสภาจริง พร้อมลงเลือกตั้งจริงหรือ แนะจับตาขอทานบุกดูไบรอทุนใช้เลือกตั้งซ่อม “สกล-ศรีสะเกษ”
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาทำนายอายุของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะอยู่ได้ไม่เกินเดือน มิ.ย.หรือ ก.ค.ว่า ตนเห็นว่า พฤติกรรมของพรรคเพื่อไทย ได้ทำนายในลักษณะเช่นนี้ในเดือนแรกของรัฐบาลชุดนี้แล้วว่าไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นก็ปรับไปเรื่อย ดังนั้นคิดว่า หลังจากเดือน ก.ค.ไปแล้ว พรรคเพื่อไทย ก็คงทำนายไปถึง ส.ค.-ธ.ค.จนครบปี
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ความเปลี่ยนแปลงของอายุรัฐบาลมีอยู่ 2 เรื่อง ตามที่นายกฯ พูดไว้คือ เรื่องของความแตกแยก และการทุจริต ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลา 5 เดือน ได้ผลักดันโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการ เป็นที่ประจักษ์ว่าไม่มีโครงการใดเลยพูดถึงการทุจริต จะมีก็คือเรื่องโครงการในอนาคตที่กำลังทำอยู่ แต่ไม่ได้สรุปว่าโครงการเหล่านี้จะมีการทุจริต หรือคอร์รัปชัน และรัฐบาลก็ยังเปิดโอกาสให้สังคมและทุกภาคส่วนได้ตรวจสอบโครงการ หากว่ามีเหตุผลก็รับฟัง ซึ่งโครงการที่ร้อนในขณะนี้ คือโครงการรถเมล์เช่า 4 พันคัน ซึ่งรัฐบาลก็เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ตรวจสอบ และให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจง ดังนั้น คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ก็คือ ประชาชน และเหตุผลทั้งหมดก็เป็นเหตุผลที่รัฐบาลจะนำไปตัดสินใจ
“น่าแปลกใจเพราะโครงการนี้เริ่มขึ้นในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หากมีข้อมูลเด็ดจริงทำไมไม่เอาข้อมูลออกมาตีแผ่ เพียงแต่เอาประเด็นการเมืองมาดิสเครดิต ทำร้ายล้างรัฐบาลเท่านั้น โครงการนี้จะไม่มีเรื่องครหาเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นอย่างแน่นอน ซึ่งต่างจากโครงการของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทุกครั้งมีโครงการใดออกมาก็เป็นที่รู้กันว่า มีการทุจริตทุกโครงการ”
นายเทพไท กล่าวว่า วันนี้ความเห็นที่แตกต่างกันในพรรคร่วมรัฐบาลย่อมมีเป็นธรรมดา ตนเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาล เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นั้นก็คือ ความร่วมมือที่จะนำพาประเทศชาติผ่านวิกฤตไปให้ได้ ปัจจัยที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ต่อ นอกจากความแตกแยก และการทุจริตที่ไม่มีแล้ว หากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจผ่านไปด้วยดี เป็นที่ยอมรับของประชาชน ก็เป็นหลักประกันว่า อายุของรัฐบาลชุดนี้จะอยู่จนครบวาระ ทำให้พรรคเพื่อไทยขัดขวางทุกรูปแบบเพื่อไม่ให้รัฐบาลประสบผลสำเร็จ ตั้งแต่การขัดขวางการออก พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจัดการชุมนุมเพื่อที่จะทำลายความมั่นใจของนักลงทุน และความเชื่อมั่นของประเทศ ฉะนั้น คิดว่า หากพรรคเพื่อไทยต้องการพียงเพื่อขัดขวางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพียงเพื่อตัวเอง ก็ขอเรียกร้องพรรคเพื่อไทยควรเห็นประโยชน์ของชาติมากกว่าของพรรคเพื่อไทย
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า วันนี้พรรคเพื่อไทย ฝันว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ก็จะทำให้กระแสสังคมกดดันให้รัฐบาลยุบสภา และฝันว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองตัวเองก็อาจจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง แต่คิดว่าหลายฝ่ายไม่มีความพร้อมให้มีการเลือกตั้งใหม่คือ 1.ประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีความแตกแยกในหมู่ประชาชนยังคงอยู่ ทั้งสีเหลือง สีแดง สีน้ำเงิน หรืออะไรก็ตามไม่มีท่าทีที่จะประสานรอยร้าวได้ซึ่งรัฐบาลก็พยายามประสานรอยร้าว และให้เกิดความสมานฉันท์ให้ได้ 2.นักธุรกิจ จะเห็นว่า ภาคธุรกิจเรียกร้องให้การเมืองนิ่งและมีเสถียรภาพ เพื่อขอเวลาให้ประเทศฟื้นฟู เศรษฐกิจให้ได้ และทุกคนคาดวังว่ารัฐบาลชุดนี้น่าจะเป็นความหวังและเป็นรัฐบาลที่ดีที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และ 3.นักการเมือง คิดว่า ไม่มีนักการเมืองคนใดจะเข้าสู่การเลือกตั้ง
“อยากให้ไปถามนักการเมืองทั้งสภาว่าใครอยากให้ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ และอยากถามว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งหรือไม่ วันนี้หัวหน้าพรรคของคุณอยู่ที่ไหน ผมอยากให้ไปดูว่าการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร และที่ จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย มีเจ้าภาพแล้วหรือยัง ผมเกรงว่า การเลือกตั้งครั้งทำให้พวกขอทานขาดทุน ต้องเดินทางไปดูไบ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาแหล่งเงินมาใช้ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม นายกฯยืนยันมาตลอดว่าเรื่องการคืนอำนาจให้ประชาชน เมื่อเหตุการณ์สงบ บ้านเมืองเป็นปึกแผ่น เศรษฐกิจไปได้ รัฐธรรมนูญมีการแก้ไข เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย นายกฯก็ไม่ปฏิเสธการคืนอำนาจให้กับประชาชน” นายเทพไท กล่าว