โฆษกประจำตัวนายกฯ สวนหมัดทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ลั่นพร้อมรับคำวิจารณ์นโยบาย แต่ขอให้สร้างสรรค์ เหน็บสมัยเป็นรัฐบาลเพื่อไทย ทำไมไม่แก้ปัญหาให้ได้ กลับปล่อยคาราคาซังจนรัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องตามแก้ ซัดทำไม่ได้แถมยังคอยขัดขวางทุกวิถีทาง อัดกลับ “เป็ดเหลิม” เป็นขอทานการเมืองตัวจริง
วันนี้ (22 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์แนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า พรรคยินดีที่จะรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์และจะนำมาพิจารณา แต่คำวิพากษ์วิจารณ์จะต้องอยู่บนพื้นฐานที่สร้างสรรค์ เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาไม่ใช่อคติและหวังผลทางการเมือง การที่ออกมาโจมตีรัฐบาลในเรื่องการใช้นโยบายกู้ลูกเดียว
“อยากถามว่า ในสมัยที่พวกคุณได้มีโอกาสบริหารประเทศ เป็นทีมเศรษฐกิจ คุณคิดอย่างไร กับนโยบายเศรษฐกิจ คุณมีโอกาสแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ ก็อยากถามว่าทำไมคุณไม่ใช้โอกาสนั้นแก้ปัญหา กลับทำให้ปัญหาเศรษฐกิจคาราคาซัง มาถึงรัฐบาลชุดนี้ คุณโอฬาร ไชยประวัติ ซึ่งได้ฉายาว่า “โหรทางเศรษฐกิจ” แต่สุดท้ายมาเป็นรัฐมนตรีก็ล้มเหลว คุณสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช มาเป็น รมว.คลัง เคยสร้างผลงานอะไรไว้เป็นที่จดจำของประชาชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจบ้าง รวมไปถึงทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย หรือคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่ถูกปลดจาก รมว.พาณิชย์มาเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าในทางการเมืองคนเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์และไม่มีหน้าที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาทางการเมือง เพราะทั้งหมดที่รัฐบาลกำลังเสนอแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยการออก พ.ร.ก. หรือกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องยอมรับว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ถูกขัดขวางทุกวิถีทาง ตั้งแต่การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จนถึงขณะนี้ก็ยังมีการข่มขู่จากสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า ถ้ารอดพ้นจากการตีความครั้งนี้ก็จะยื่นตีความตาม มาตรา 169 ว่าการออก พ.ร.ก.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้ขัดขวางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจทุกวิถีทาง ซึ่งตรงกับสุภาษิตสมัยใหม่ที่ว่า “เล่นคอมพิวเตอร์ไม่เป็น เสือกปล่อยไวรัสเข้าไปอีก” นายเทพไท กล่าว
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์บริหารประเทศแม้แต่ขอทานยังขาดทุนนั้น นายเทพไทกล่าวว่า คนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นนักการเมืองประเภทขอทานมาก่อน จึงไม่เข้าใจว่าขอทานขาดทุนเป็นอย่างไร แต่นักการเมืองบางคนเป็นนักขอทานทางการเมืองมาโดยตลอดย่อมรู้ดีถึงหัวอกขอทานว่าเป็นอย่างไร และการที่เดินทางไปดูไบ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วของนักการเมืองบางคน เดินทางไปเพื่อขอทานทางการเมืองใช่หรือไม่