“ถาวร” เผยเร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ ผ่านโครงการวิถีชีวิตพอเพียง อัดฉีดครัวเรือนละ 6 พัน ช่วยสร้างทุนอาชีพในพื้นที่ได้ ยอมรับแม้ซ้ำซ้อนโครงการรัฐแต่จำเป็นต้องทำ เผยน่าสังเกตแบบประเมินผลงานผู้ว่าฯ ของ ก.พ. พบ 1 ใน 5 ผู้ว่าชายแดนใต้ผลงานไม่เข้าเป้า ทั้งที่ต้องทำงานหนักและเสี่ยงภัย เตรียมใช้แบบประเมินกระทรวงพิจารณาอีกครั้งก่อนถึงฤดูกาลโยกย้าย
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทารา เกาะสมุย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่พิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลาว่า อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการวิถีชีวิตพอเพียง ซึ่งเป็นการของบประมาณจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เพื่อแจกให้กับครัวเรือนในพื้นที่ดังกล่าว ครอบครัวละ 6 พันบาท เป็นทุนสร้างอาชีพตามแต่ความถนัด ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยปีงบประมาณ 2552 ดำเนินการได้ 1,200 หมู่บ้าน ส่วนปีงบประมาณ 2553 จะดำเนินการอีก 2,209 หมู่บ้าน หรือ ประมาณ 1 แสนครัวเรือน แม้จะซ้ำซ้อนกับโครงการ SML แต่ก็ต้องจัดสรรให้ เพราะประชาชนดังกล่าว ถือเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่พิเศษ สำหรับกฎหมายที่จะมารองรับการปฎิบัติงานของ ศูนย์อำนวยการบริหารงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.นั้น นายถาวรยอมรับว่า การทำงานของ ศอ.บต.ไม่อาจดำเนินการได้เต็มที่ เพราะต้องรอกฎหมายออกมารองรับการทำงาน ซึ่งร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว จัดทำแล้วเสร็จมาแล้ว 4 เดือน และได้ส่งให้รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงไปแล้ว ทั้งนี้ ต้องรอการพิจารณาของรัฐบาลต่อไป
รมช.กระทรวงมหาดไทย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินเพื่อการปฎิรูปเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก.ว่า สำนักงานที่ดินของแต่ละจังหวัดจะต้องส่งรายละเอียด จำนวนพื้นที่ ผู้ครอบครอง และผู้บุกรุก ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะในกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เพื่อจะได้เร่งจัดสรรที่ดินทั่วประเทศ ให้เกษตรกรคนละไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งหากไม่ผิดสัญญาก็สามารถทำกินในพื้นที่ดังกล่าวได้ต่อไปถึง 5 ปี ก่อนจะต่อสัญญาครั้งต่อไป โดยจะคิดค่าเช่าไร่ละ 10 บาทต่อปี ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย เลือกใช้วิธีการทำประชาคมวิจารณ์ คือ การให้ชุมนุมตรวจสอบที่ผู้จะรับสิทธิ์ดังกล่าวกันเอง เพราะเชื่อว่าเป็นกระบวนการตรวจสอบที่น่าเชื่อถือมากที่สุด
นายถาวรกล่าวว่า ทั้งนี้มีรายงานว่า สำนักงาน ก.พ.ได้ทำการประเมินผลการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะมีผลต่อการโยกย้ายนอกฤดูกาลอีกครั้ง ซึ่งรายงานเบื้องต้นมีรายชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในครั้งนี้ด้วย ทั้งที่เป็นที่รู้กันดีว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่พิเศษ ล้วนแต่ต้องทำงานหนัก และเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปี จึงมีการตั้งข้อสังเกต และหลายคนก็ติดใจตัวชี้วัดของก.พ.ที่ใช้ในการประเมินผลครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากจะใช้ผลประเมินของ ก.พ. แล้ว ยังมีผลประเมินของกระทรวงมหาดไทย ที่มีรายงานว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งให้มีการจัดทำแบบสอบถาม พร้อมรายละเอียดที่ต้องรายงานประวัติของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละคนอย่างละเอียด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่มีต่อพรรคการเมือง ว่ามีความใกล้ชิดสนิทสนมกับพรรคการเมืองใดเป็นพิเศษ รวมถึงการให้ความร่วมมือ ในการสนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมาจากพรรคภูมิใจไทย มีระดับความร่วมมือมากน้อยเพียงใดอีกด้วย