“ถาวร” ซัด “นัจมุดดีน อูมา” กล่าวหารัฐบาลล้มเหลวแก้ปัญหาใต้ ชี้ สมัยรัฐบาลไทยรักไทย ใช้วิธีรุนแรง ทั้งอุ้มฆ่าทำร้ายประชาชน ทำชาวบ้านไม่พอใจ ยัน รัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้แผนโดยยึดแนวพระราชดำรัสในหลวง ที่ให้เข้าใจประชาชน และให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาล เร่งแก้ปัญหา พร้อมหนุนงบพัฒนาเศรษฐกิจกว่า 5 หมื่นล้านบาท ทำชาวบ้านพอใจมากขึ้น
วันนี้ (27 เม.ย.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายนัจมุดดีน อูมา ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โจมตีการทำงานของรัฐบาล กรณีแก้ปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนใต้ ว่า ไม่ถูกทาง เพราะรัฐบาลใช้ 2 มาตรฐาน จนเป็นเหตุให้มีผู้ก่อความไม่สงบและกองกำลังติดอาวุธ 9,000 คน ว่า ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้เกิดมาจากสมัยที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล โดยมี นายวันมูหะมัด นอร์ มะทา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ใช้วิธีรุนแรงแก้ปัญหา โดยการอุ้มฆ่าและลอบฆ่าประชาชน ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจรัฐบาล และมีการปล้นปืนและฆ่าประชาชนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับราชการ
นายถาวร กล่าวอีกว่า แต่พอพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลได้ 3 เดือนเศษ ตนก็ได้ดำเนินการแก้ปัญหาโดยยึดตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตรัสว่า รัฐบาลต้องเข้าใจประชาชน แล้วประชาชนจะเข้าใจรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้ผลักดันให้มีการเพิ่มงบประมาณประจำปี 2553 อีก 5 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุน 400 โครงการ เพื่อแก้ไขและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ใช้ศูนย์อำนวยบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นส่วนประสานนโยบายของรัฐบาลลงสู่ส่วนราชการในพื้นที่ อีกทั้งตนยังได้ใช้เวลาช่วงเสาร์-อาทิตย์ ลงพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ โดยได้จัดตั้งโครงการบัณฑิตอาสาหมู่บ้านละ 1 คน เพื่อประสานงานระหว่างหมู่บ้านกับรัฐบาล
นายถาวร กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้จัดสรรงบประมาณให้หมู่บ้านละ 228,000 บาท เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ ในส่วนการพัฒนาด้านวัฒนธรรม รัฐบาลได้ตั้งกองทุนฮัจญ์ เพื่อสนับสนุนการไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ปีละ 200 คน คนละ 150,000 บาท นอกจากนี้ ยังสนับสนุนชาวไทยพุทธ โดยการให้ทุน 100 ทุนๆ ละ 40,000 บาท เพื่อไปตามรอยพระพุทธศาสนาที่ประเทศอินเดีย และด้านความมั่นคง รัฐบาลได้จัดชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน เพิ่มจาก 4 คน เป็น 6 คน และยังฟื้นระบบการศึกษาเอกชนในพื้นที่ โดยใช้งบประมาณศอ.บต.ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)
“เมื่อวาน (26 เม.ย.) ผมได้ลงพื้นที่ที่บ้านตันหยงลิมอ จ.นราธิวาส โดยไปที่เกิดเหตุสังหาร 2 นาวิกโยธิน โดยมีประชาชนกว่า 600 คน มาให้การต้อนรับ ซึ่งเสียงประชาชนส่วนใหญ่พอใจการทำงานของรัฐบาลนี้มากกว่ารัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งการลงพื้นที่เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ซึ่งรัฐบาลไทยรักไทย และรัฐบาลพลังประชาชน ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนใดกล้าลงไป” นายถาวร กล่าว
