งานสังสรรค์พรรคประชาธิปัตย์ที่สมุย มาคุ “เฉลิมชัย” เย้ย “มาร์ค” กลางเวที มีส.ส.มีมือมากกว่า 40 ทำเอาแกนนำพรรคเครียด ด้าน “อภิสิทธิ์” แก้เกี้ยวบอกลูกพรรคจะกวาด ส.ส.ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 240 คน วอนเข้าใจการทำงานกับรัฐมนตรีในพรรค ขำข่าว “ประชา”อ้างแกนนำพรรคเตรียมซบพรรคเพื่อไทย พร้อมถูกวางตัวเป็นหัวหน้าพรรค ปฏิเสธรอยร้าวพรรค ยันกำลังใจยังดี พร้อมสานสัมพันธ์กันแนบแน่นขึ้น
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทารา เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานเลี้ยงสังสรรค์ของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นมีรัฐมนตรี และส.ส.ของพรรคมาร่วมงานกว่าร้อยคน ซึ่งนายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นการเลี้ยงสังสรรค์ ภายหลังจากที่เราร่วมฝ่าวิกฤตและทำงานหนักมาตลอด 5 เดือนกว่า และเพื่อที่จะได้พบปะพูดคุยในหมู่สมาชิกและผู้บริหารพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีการเชิญรัฐมนตรีและแกนนำของพรรคขึ้นร้องเพลง อาทิ นายสุรสิทธิ์ ตรีทอง ส.ส.สัดส่วน โดยร้องเพลง มีเมียเด็ก พร้อมกับกล่าวเปิดใจบนเวทีว่า ที่ตนไปพรรคภูมิใจนั้น ยืนยันว่าตนไม่คิดจะย้ายพรรคแต่อย่างใด แต่ที่ไปเพราะต้องการไปยื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ซึ่งตนได้ปรึกษากับนายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรค ซึ่งนายชุมพลก็แนะนำให้ไปยื่นถึงพรรค แต่บังเอิญไปตรงกับวันที่มีการประชุม ส.ส.พรรคภูมิใจไทยพอดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างครื้นเครง จนกระทั่งพิธีกรในงานได้เชิญนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ขึ้นร้องเพลง ซึ่งนายเฉลิมชัยได้เลือกร้องเพลง หิ่งห้อยกับแสงตะวัน ทำให้บรรยากาศภายในงานกลับเป็นเคร่งเครียดไปทันที ระหว่างนั้นนายอภิสิทธิ์ได้นำดอกไม้ไปมอบให้ เมื่อร้องเพลงนายเฉลิมชัยได้พูดว่า “ผมกับหัวหน้ามีความสัมพันธ์กัน ดังนั้น ดอกไม้ดอกนี้จึงมีความสำคัญกับผมมาก และที่นายกฯ พูดว่าผมมี 40 แต่ผมอยากจะบอกตรงนี้ว่าไม่ใช่ เพราะผมมีมากกว่านั้น” ซึ่งทำให้บรรดา ส.ส.กลุ่มของนายเฉลิมชัยแสดงอาการร้องเฮดีใจ โดยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ถึงกับชักสีหน้าเครียด ทั้งนี้ เมื่อนายเฉลิมชัยร้องเพลงจบ นายอภิสิทธิ์ได้เดินเข้าไปหาพร้อมกับจับมือ หลังจากนั้น นายอภิชาต สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี กลุ่มนายเฉลิมชัยได้ขึ้นไปร้องเพลง คนที่ไม่มีตังก์ โดยดัดแปลงเนื้อเพลงไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ ของตั๊กแตนชลดา ซึ่งนายอภิชาตอ้างว่าเป็นเพลงที่นายนราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลา เป็นผู้ดัดแปลงเนื้อเพลง โดยนายสุเทพได้มีสีหน้าเคร่งเครียด โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่ได้ฟัง เดี๋ยวค่อยเอาไปคุยกันบนเรือ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายเฉลิมชัยลงจากเวที ได้มี ส.ส.พรรคจำนวนหนึ่งนำโดยนายชำนิ ศักดิ์เศรษฐ ส.ส.สัดส่วน ถึงกับระบุ พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ต้องมาเคลียร์ ไม่ได้เคลียร์ไม่ได้ จนทำให้สมาชิกต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์
จากนั้น นายเฉลิมชัย ได้เดินเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ แต่ปรากฏว่านายสุเทพ ไม่ได้มีการสนทนากับนายเฉลิมชัย แต่อยู่ในอาการเคร่งเครียดตลอดเวลา ขณะที่นายเฉลิมชัยได้พยายามชักชวนให้นายกรัฐมนตรีมาร่วมลงเรือ เพื่อเดินทางมาเที่ยวเกาะนางยวนด้วย จนทำให้บรรดาส.ส.ต่างส่งเสียงเชียร์ให้นายกรัฐมนตรีเดินทางมาด้วย จึงทำให้บรรยากาศช่วงนี้ผ่อนคลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสุดท้ายของงานนายอภิสิทธิ์ได้ขึ้นกล่าวปิดท้ายบนเวทีว่า ที่นายเฉลิมชัยพูดว่ามีมากกว่า 40 นั้น คงจะจริง เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส. 240 การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่โดยไม่เกรงใจกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย และการสัมมนาครั้งนี้ส.ส.ก็มาอย่างพร้อมเพรียง ใครที่ไม่มาก็โทร.บอก และการมาพบกันครั้งนี้ก็หวังว่าทุกคนจะใช้เวลากันอย่างคุ้มค่าสานสัมพันธ์กันมากขึ้น ทั้งนี้ ตนยังมีกำลังใจดี เพราะเรามั่นใจในอุดมการณ์ ประสบการณ์ที่ร่วมฟันฝ่าวิกฤตกันมา
จากนั้นนายอภิสิทธิ์พร้อมด้วยทีมงานโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค และนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ได้ร่วมกันร้องเพลงถึงเพื่อน เพลงตลอดเวลา และเพลงตังเก ซึ่งแต่ละเพลงล้วนมีความหมายทำนองว่า เป็นการทำงานให้กับปองชน ความรัก ความสามัคคี และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เดินทางมาส่งลูกพรรคลงเรือสัมมนา โดยไม่ได้ร่วมเดินทางด้วยเนื่องจากติดภารกิจ พบนักธุรกิจจบนเกาะสมุย และต้องเดินทางกลับกรุงเทพ ในเวลา 12.20 น.
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ ถึงบรรยากาศภายในพรรคที่เมื่อมีการสัมมนาและพูดคุยกันมากขึ้นจะทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่นหรือไม่ว่า ตนขอยืนยันว่าความจริงไม่ได้มีอะไร สมาชิกทำงานอย่างเต็มที่และแสดงความคิดเห็นกันอย่างอิสระอยู่แล้ว และเป็นเรื่องที่เมื่อปิดสมัยทุกครั้งก็จะมาพบปะกันเป็นปกติ จึงมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย เพราะทุกคนรู้ดีว่าภาระหน้าที่ ความคาดหวังของประชาชนเป็นอย่างไร ส่วนที่บอกว่ารัฐมนตรีห่างเหินกับส.ส.นั้น ตนกำชับรัฐมนตรีของพรรคตลอดเวลาว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญกับงานของผู้แทนปวงชนชาวไทย ดังนั้นเวลาที่มีความเดือดร้อนในพื้นที่ หรือมีความต้องการต่างๆ ของประชาชน เมื่อเป็นฝ่ายบริหารแล้วจะต้องรับรู้อยู่ตลอดเวลา
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเดินทางพบปะประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมว่า กำลังดูตารางเวลา เพราะตอนนี้จะมีช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ต้องเปิดสมัยประชุมวิสามัญ และกำลังดูตารางเวลาเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะยังเยือนประเทศอาเซียนไม่ครบ เพิ่งไปได้เพียง 2 ประเทศ
สำหรับพื้นที่ภาคอีสานคาดว่าจะเดินทางไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะดูเวลา และความเหมาะสม ซึ่งจะพยายามเดินทางไปให้ทั่ว เนื่องจากต้องการพบปะกับประชาชนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังปฏิเสธให้สัมภาษณ์กรณีนายประชา ประสพดี ส.ส.พรรคเพื่อไทยระบุว่าได้ทาบทาม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค โดยนายกฯ เลี่ยงไม่ตอบและหัวเราะ โดยยืนยันว่าความสัมพันธ์ในพรรคไม่มีปัญหา และพรรคให้อิสระ ส.ส.ทุกคน โดยจะกำชับรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับ ส.ส.เพื่อลดช่องว่าง
ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีจะปรับตำแหน่งเดียวหรือไม่นั้น ต้องรอดูข้อเสนอของแต่ละพรรคก่อน ซึ่งล่าสุด ยังไม่มีพรรคใดเสนอมา ส่วนกรณี นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็จะพูดคุยกันภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อถามเหตุผลที่ไม่ลาออก แต่ถือว่าเรื่องนี้เป็นกิจการภายในของแต่ละพรรค
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ยังปฏิเสธตอบคำถามกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พำนักอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยให้สอบถามจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่สังเกตว่า ในการประชุม ส.ส.พรรคครั้งนี้มี ส.ส.ของพรรคหลายคนที่ไม่ได้เข้าร่วม ซึ่งนอกจากนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ที่ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อพูดคุยและขอลาการเข้าร่วมสัมมนาแล้ว ยังปรากฏว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กรุงเทพฯ ก็ไม่ได้เข้าร่วมงานดังกล่าวเช่นกัน ทั้งที่ก่อนหน้ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานและแสดงความไม่พอใจต่อการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรค