ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป.เผย ต้องยอมรับสภาพ ฝ่ายค้านยื่นศาล รธน.ตีความ แม้จะรำคาญ-เสียเวลา แต่ก็เป็นสิทธิ์ตาม รธน.ที่สามารถทำได้ เปรยดีกว่าไปทำอะไรนอก กม.
วันนี้ (21 พ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยื่นให้ตีความ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 วงเงิน 4 แสนล้านบาท ว่า หากเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ต้องยอมรับ และดีกว่าไปทำนอกกฎหมาย ซึ่งตนถือหลักว่าเมื่อเป็นสิทธิทางกฎหมายก็สามารถทำได้ ฉะนั้น เมื่อฝ่ายค้านทำตามกฎหมาย แม้รัฐบาลจะรู้สึกว่าทำให้งานของรัฐบาลมีปัญหาช้าหน่อย แต่เมื่อเป็นสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญก็ต้องยอมรับกันและต้องยอมรับสภาพ
“แม้จะรำคาญบ้าง รู้สึกเสียเวลาบ้าง แต่เป็นการใช้สิทธิโดยกฎหมายต้องถือเป็นความชอบธรรมที่ทำได้เพียงแต่เป็นห่วงว่าการแก้ปัญหาจะช้าไปหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เมื่อเขาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเขาไม่ทำอะไรนอกกฎหมายก็ดีแล้ว เพราะข้อห่วงใยคือการที่มีการดำเนินการบางอย่างนอกกฎหมายอันนี้ คือ ข้อห่วงใยมากกว่า” นายชวนกล่าว
“ชวน” แนะ ก.ศึกษาฯให้ความรู้การเมืองกับเยาวชนป้องกันปัญหาซื้อเสียง
นอกจากนี้ ประธานสภาที่ปรึกษา ปชป.ยังกล่าวถึงกรณีที่กรรมการสมานฉันท์ของพรรคประชาธิปัตย์เสนอตัดมาตรา 237ในประเด็นยุบพรรค ว่า ขอรอฟังคณะกรรมการของพรรคก่อน เพราะเวลาพูดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะพูดเฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่งไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญ คือ ตนสนับสนุนให้กระทรวงศึกษาธิการให้ความรู้ด้านการเมืองแก่เยาวชนและคนทั่วไปซึ่งจะมีผลไปถึงการสร้างการเมืองในระบบที่ชอบธรรม เช่น การให้ความรู้เยาวชนถึงอันตรายของระบบการเมืองซื้อเสียง โกงเลือกตั้งและการทุจริตโกงกิน ซึ่งตนได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วว่าการเรียนรู้เรื่องประชาธิปไตยไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาหากเราปล่อยปละละเลยไม่ให้ความรู้กับเยาวชน เมื่อเด็กโตขึ้นมาอาจจะมีความเข้าใจ และค่านิยมผิดๆ เห็นดีเห็นงามกับพ่อแม่ที่ขายเสียง
“ผมคิดว่าควรจะเริ่มอย่างจริงจังในรัฐบาลนี้ หมายถึงเป็นสิ่งนี้ต้องทำนอกเหนือจากที่คณะกรรมการสมานฉันท์ทำกันใครเป็น กกต.ใครมาทำงานด้านนี้ พวกเราเสนอทุกครั้งผมเสนอกกต.เกือบทุกชุดว่าไปไล่จับเป็นเรื่องยาก และจะจับได้สำหรับบางกรณีรายใหญ่ๆ จับไม่ได้ เพราะฉะนั้นการให้ความรู้ถือว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตรงนี้เป็นสิ่งที่มีโอกาสแล้วจะต้องร่วมกันทำอย่างจริงจังและควรต้องทำทุกระดับชั้น ปลูกฝังกันเรื่อยๆ เพราะเราจะไปหวังคนรุ่นปัจจุบันมันยาก ดังนั้น เราต้องหวังคนรุ่นต่อๆ ไปที่โตขึ้นมา ต้องมีความพร้อม การให้ความรู้แก่เยาวชนมีผลต่อพ่อแม่ถ้าเด็กในบ้านพูดว่าผู้ใหญ่อย่าขายเสียง จะมีผลต่อความรู้สึกเพราะฉะนั้นต้องให้ความรู้จริงๆ ระบบการเมืองที่ล้มเหลวในบางเรื่องในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้บางอย่างเป็นไปในทางบวกคนส่วนใหญ่สนใจการเมืองมากขึ้น เป็นเรื่องดีคนมีความรู้มากขึ้นเป็นเรื่องดีแต่พฤติกรรมที่สวนทางกัน คือ การเห็นค่านิยมประชาธิปไตยที่ผิด”