ปธ.ส.ส.พรรคเพื่อไทย สาดโคลนสงสัยออก พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อนำมาแบ่งกันใช้ในพรรคร่วมฯ ฝันหวานเป็นรัฐบาลอีกรอบ ขู่ใช้คำวินิจฉัยศาล รธน.ตีความ พ.ร.ก.เป็นมาตรฐาน สารภาพบินพบนายใหญ่ที่ดูไบ หารือเรื่องธุรกิจ ฟุ้ง “แม้ว” ซื้อเกาะส่วนตัวจริงพร้อมถือพาสปอร์ต 6 เล่ม นั่งเฮลิคอปเตอร์พเนจร ส่ายหน้าไม่เห็นหัว “อีเพ็ญ”
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าการส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความการออก พ.ร.ก.มอบอำนาจให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในวงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาทของรัฐบาล เป็นการเตะตัดขาทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องนี้รัฐบาลขาดความรับผิดชอบ การออก พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทนั้น 2 แสนล้านบาทแรกจะนำมาสนับสนุนการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ไม่เข้าเป้าซึ่งเป็นเรื่องที่พอรับได้ เพราะไม่มีใครคิดว่าจะจัดเก็บรายได้ได้ต่ำขนาดนี้ แต่ 2 แสนล้านบาทหลังนั้นรับไม่ได้ รัฐบาลไม่มีความละอาย เพราะไม่มีโครงการหรือไม่มีสิ่งใดที่จะตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะนำไปแบ่งกันระหว่างพรรคร่วม ตามกระทรวงในแต่ละโครงการ ส่วนการปรับงบประมาณปี 2552 นั้น ความจริงเรื่องนี้มีการปรับมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช โดยได้จัดไปแล้วครึ่งหนึ่ง เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ ก็แสดงว่างบประมาณมีการจัดถึง 3 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดและไม่รักษาผลประโยชน์ต่อประเทศ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ลอกเลียนแบบนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ทำงานไม่เป็น ปัญหาเศรษฐกิจก็แก้ไม่ได้ ปัญหาภาคใต้แม้มีคณะรัฐมนตรีคณะพิเศษก็แก้ไม่ได้ ส่วนหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยังไม่อยากแสดงความคิดเห็นตอนนี้ แต่ยังติดใจกับเงิน 2 แสนล้านบาทว่าจะเอามาใช้อะไร ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าไม่ขัดกฎหมาย ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหน้า แต่จะถือว่าดีและเป็นมาตรฐานที่ดี เมื่อตนมีโอกาสได้เป็นรัฐบาลจะได้ทำบ้าง ตามมาตรา 184 วรรค 2
สำหรับการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่พร้อมรับตำแหน่งด้วยเหตุหลายปัจจัย ซึ่งการเมืองในขณะนี้ตนไม่พร้อมจริงๆ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้กลัวการถูกยุบพรรคและถูกตัดสิทธิ แต่ส่วนตัวมองว่าทุกคนในพรรคมีความรู้ความสามารถ เก่งกันทุกคน แต่คุณสมบัติสำคัญต้องเป็น ส.ส. ซึ่งหากเป็นคนนอกคงเป็นไปไม่ได้
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หลบหนีคดีอยู่ที่เมืองดูไบด้วยว่า คุยแต่เรื่องธุรกิจทั่วไป และมีการซื้อเกาะจริงแต่ไม่ได้พูดคุยกันเรื่องการเมือง ส่วนการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ใช้วิธีเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ซึ่งซื้อจากเจ้าของห้างแฮร์รอดด์ ประเทศอังกฤษ ส่วนเครื่องบินเจ็ตเป็นเพียงการเช่าเหมาลำ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือพาสปอร์ตจำนวน 6 เล่ม แต่ไม่มีเล่มใดที่เป็นของประเทศไทย ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่ม นปช.ไปพำนักอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ซึ่งตอนที่ไปนั้นก็ไม่ได้พบ
