พ่อค้า-แม่ค้า คลองเตยบุก ปชป.ทวงสัญญานายกฯแก้ปัญหาคลองเตย “มาร์ค” ยอมรับเป็นเรื่องยาก พร้อมประสาน จนท.ตร เข้าไปดูแล วอนอย่าขีดเส้นตาย
วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.นายสุรเดช นิสภารมณ์ แกนนำกลุ่มผู้ค้าขายตลาดคลองเตย พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 200 คน รวมทั้งรถกระบะติดเครื่องขยายเสียง และรถบัส 3 คัน มาชุมนุมปิดล้อมที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ บริเวณถนนเศรษฐศิริ เพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในตลาดคลองเตย ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้อาวุธสงครามยิงขู่กลุ่มผู้ชุมนุม โดยนายสุรเดชระบุว่ามาทวงถามสัญญากับนายกฯ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลุ่มพวกตนให้การสันบสนุน และยื่นหนังสือให้นายอภิสิทธิ์ หลังเป็นนายกฯใหม่เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาแต่กับเพิกเฉย ทั้งที่พวกตนให้การสนับสนุนนายกฯ และพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด วันนี้จึงมาดูว่าพรรคยังเหมือนเดิมหรือไม่
นายสุรเดช กล่าวว่า กลุ่มผู้ค้าได้เรียกร้องให้รัฐบาลถึง 2 ชุด เข้ามาแก้ปัญหา นอนกินกลางถนนมานานกว่า 6 เดือน ถูกยิงด้วยระเบิด เอ็ม 26 ถึง 9 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บมากกว่าร้อยคน มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์นับ 10 คน บุกเข้าไปถล่มยิงแต่โชคดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เข้าไปควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จึงไม่มีผู้เสียชีวิต
“พวกเราไม่ได้ให้นายกฯช่วยเหลือ เพียงแต่ให้ความเป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งจากสัญญาบริษัท ลีเกิล โปรเฟสชัลนั่น จำกัด กำกับการท่าเรื่อแห่งประเทศไทย (กทท.) ข้อ 12 . 1. 2 ที่ระบุว่าถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคง ก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที” นายสุรเดช กล่าวและว่า พวกตนเจ็บใจเพราะไปที่ทำเนียบรัฐบาล คนที่ทำเนียบก็บอกว่านายกฯที่พรรค มาที่พรรคคนที่พรรคก็บอกว่าอยู่ที่ทำเนียบ นายกฯไม่มาพบพวกเราก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้เราเจอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชุมนุม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บัคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) ได้นำเจ้าหน้าที่กองร้อยปราบจลาจล จำนวน 2 หมวด และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่บก.น.2 จำนวน1 กองร้อยมารักษาความสงบ โดยใช้รถคุมขังผู้ต้องหา จำนวน 1 คัน จอดขวางกลางถนนเศรษฐศิริ กั้นระหว่างพรรคและกลุ่มผู้ชุมนุม โดยพล.ต.ต.สาโรจน์ ได้เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าให้นำรถบัส 3 คัน ไปจอดไว้ที่บริเวณถนนพระราม 6 เพราะรถบัสกีดขวางการจรจรเข้าออกโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ทั้งนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประสานงานกับกลุ่มผู้ชุมนุมและนายกฯตลอด ซึ่งนายอนุชา ยืนยันว่า นายกฯจะมาพบกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน
ต่อมาเวลา 15.00 น.นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางเข้ามาทีทำการพรรค เพื่อเข้าร่วมประชุมส.ส.พรรค เมื่อมาถึงเดินทางเข้าพบกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อรับหนังสือจาก นางอักษร ดีพันธุ์ อายุ 34 ปี แม้ค้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งนางอักษรได้กล่าวกับนายกฯทั้งน้ำตาว่า อยากให้ช่วยเหลือ และจะไม่ทำตัวให้เป็นภาระกับรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลยกเลิกสัญญากับบริษัท ลีเกิล เพียงเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องยากพอสมควร เมื่อมีการประมูลแล้วมีความเห็นไม่ตรงกัน ตอนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งได้กำชับให้รัฐมนตรีว่าและรัฐมนตรีช่วยคมนาคมเข้าไปดูและยอมรับตรงๆ ว่า เรื่องนี้ไม่สามารถหาทางออกได้ และพอเกิดความรุนแรงขึ้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ก็เคยมารับเรื่องและพยายามจะเข้าไปทำงานในเชิงลึกที่จะดูว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร แต่เมื่อคืนได้เกิดการกระทำขึ้นอีก ซึ่งตนย้ำมาโดยตลอดว่าไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้นจะรับเรื่องนี้ไปและจะรีบปรึกษากับนายสุเทพ และตำรวจเพื่อดูแลรักษาความเรียบร้อย อย่างไรก็ตามตอนนี้ข้อเรียกร้องหรือจุดยืนของทั้งสองฝ่ายขณะนี้เข้ากันไม่ได้เลย และยืดเยื้อ และรูปแบบของการเคลื่อนไหวของหลายๆ ฝ่าย ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความรุนแรง เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาจะให้ถูกใจฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด 100% อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ความจำเป็นต้องพูดคุยกันและอย่างน้อยที่สุดต้องหาวิธีการจะทำให้เกิดความปลอดภัย ดังนั้น เมื่อรับเรื่องแล้วจะคุยกับตำรวจก่อนเบื้องต้น และจากนั้นจะให้ตำรวจไปประสานงาน และ ส.ส.ก็มีหน้าที่อยู่แล้วและไปดูแลความเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตัวแทนผู้ค้า ระบุว่า หลังจากนี้ จะมารอฟังคำตอบจากนายกรัฐมนตรีใน 7 วัน แต่นายกรัฐมนตรี ขอว่าหากมีอะไรที่จะสื่อสารกันขอให้ส่งตัวแทนมา อย่าบอกว่า 7 วันต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ ถ้าทำกันอย่างนี้ก็เป็นปัญหาความรุนแรง เพราะอีกฝ่ายก็ยื่นคำขาดให้รัฐบาลจัดการกับผู้ค้าภายในเท่านั้นเท่านี้วัน ตนก็บอกว่าไม่ได้ ฉะนั้นต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล เพราะรัฐบาลฟังและพยายามดูแลทุกฝ่าย และเห็นใจผู้ถูกกระทำ
“เราอย่ามายื่นคำขาดกัน เรามีอะไร เรามาติดต่อสื่อสารส่งตัวแทนมา ผมอยู่ตรงนี้ พูดคุยกัน ผมเข้าใจและผมรับเรื่องเดี๋ยวนี้และจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว