“เพื่อไทย” ล่าชื่อ ส.ส.อ้างมาตรา 185 ยื่น “ปู่ชัย” ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความรัฐบาลออก พ.ร.ก.กู้เงินชี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อ้างไม่ใช่กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วน ซัดเลี่ยงให้สภาสอบ ขู่หากดึงดันเจอวอล์กเอาต์ เตรียมเปลี่ยนกรรมการบริหารใหม่หลังปิดสมัยประชุมสภาฯ
วันนี้ (15 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 11.45 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่พรรคจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ว่า พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อ ส.ส.1 ใน 5 ตามมาตรา 185 ของรัฐธรรมนูญยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้เป็นกรณีฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นเร่งด่วน แต่หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของสภาฯ เนื่องจากการออก พ.ร.ก.นั้นไม่ต้องมีการอภิปรายเหมือนการออกเป็น พ.ร.บ. เสมือนเป็น พ.ร.ก.ซ่อนรูป ซ่อนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนต้องมาแบกรับภาษี เป็นการมัดมือชก ซึ่งในช่วงบ่ายพรรคได้มอบหมายให้นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค เป็นตัวแทนไปยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ทั้งนี้ หากยื่นเรื่องถึงประธานสภาฯ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว รัฐบาลยังดึงดันที่จะให้มีการพิจารณาต่อ พรรคก็อาจจะต่อต้านโดยใช้วิธีการไม่เข้าร่วมประชุมหรือวอล์คเอาท์
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงการจัดสัมมนาของพรรคว่า ในวันที่ 21 พ.ค.พรรคจะจัดสัมมนาเรื่องเศรษฐกิจ และหลังจากที่สภาฯ ปิดสมัยประชุมแล้ว พรรคเพื่อไทยจะจัดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะอยากให้การทำงานระหว่าง ส.ส.และสภาฯ นั้นเป็นไปอย่างสอดคล้องและเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคชุดเดิมไม่มี ส.ส.เข้าร่วมด้วย จึงอาจทำให้การทำงานไม่ราบรื่นเท่าที่ควร สำหรับสัดส่วนของคณะกรรมการบริหารนั้นคงต้องให้ที่ประชุมพรรคพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ในการประชุม ส.ส.พรรคเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น พรรคได้แจกแบบฟอร์มให้ ส.ส.แสดงความสมัครใจไปแล้วว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดบ้าง ซึ่งถ้าเป็นตำแหน่งสำคัญก็คงจะต้องมีการโหวตเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน
