“เทพไท” ซัด นปช.อย่าฉวยโอกาสจัดงานรำลึก 17 ปี พฤษภา ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่สู้เพื่อ “นักโทษ” คนเดียว แนะส่งตัวแทนยื่นข้อเรียกร้องต่อกรรมการสมานฉันท์แทนชุมนุมกดดัน ดักคอ “เครือข่ายทักษิณ” รับลูกเคลื่อนไหว เย้ยอันซีนอดีตซากศพการเมืองโดนแบนจัดแข่งกอล์ฟชิงถ้วย “นช.หนีคดี” ระบุควรให้กินเนสส์บุ๊กบันทึกสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.ที่จะจัดงานรวมพลังรำลึก 17 ปี พฤษภาทมิฬ ทวงคืนรัฐธรรมนูญ 2540 ว่า กลุ่ม นปช.ไม่ควรทำตัวเป็นเจ้าของงานรำลึกเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงที่ต้องการให้นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง แต่การต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อ 13 เม.ย.เป็นการต่อสู้เพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว อุดมการณ์และแนวทางการต่อสู้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง การที่กลุ่ม นปช.ฉวยโอกาสอ้างตัวเป็นเจ้าภาพการจัดงานครั้งนี้ เป็นการปิดกั้นประชาชนทุกภาคส่วนที่รักประชาธิปไตยและมีส่วนร่วมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ไม่สามารถเข้าร่วมสังฆกรรมกับกลุ่ม นปช.ได้ เพราะการต่อสู้ครั้งนั้นไม่มีการแบ่งสีแบ่งฝ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเรื่องของประชาชนทุกคน
ทั้งนี้ ทุกปีที่ผ่านมากิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพ ไม่อยากให้กลุ่มคนเสื้อแดงเอาภาพความเคลื่อนไหวและอ้างประชาธิปไตยจอมปลอมเพื่อประโยชน์ของบางคนมาแปดเปื้อนกับอุดมการณ์ของวีรชนเดือนพฤษภา อย่าเอาเกียรติภูมิการต่อสู้ของวีรชนเดือนพฤษภามาลบล้างพฤติกรรมป่วนสังคม ซ้ำเติมชาติของกลุ่ม นปช. มิฉะนั้นแล้วจะทำให้งานนี้กร่อยลงไป และประชาชนส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธการเข้าร่วมและไม่กล้าเข้าร่วมงานเหมือนทุกปีที่ผ่านมาเพราะเกรงว่าจะถูกเหมารวมว่าเป็นพวกเดียวกับที่สนับสนุนคนเสื้อแดง จึงอยากเรียกร้องให้กลุ่ม นปช.หยุดฉวยโอกาสเอางานรำลึกเหตุการณ์นี้มาบังหน้าจัดฉากเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กลุ่มตัวเอง โดยควรให้คณะกรรมการญาติวีรชนเป็นผู้ดำเนินการแทนจะดีกว่า
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการประกาศของแกนนำ นปช.ที่จะร่วมชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันที่ 18 พ.ค. เพื่อยื่นหนังสือและประกาศเจตนารมณ์ที่หน้ารัฐสภานั้น ตนเห็นว่าไม่อยากให้คนเหล่านี้เคลื่อนไหวในลักษณะที่จะก่อความวุ่นวายให้เกิดต่อสังคมโดยรวมอีก ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็ควรส่งตัวแทนกลุ่มมายื่นประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรู้ความเห็นของกลุ่ม นปช. ต่อคณะกรรมการสมานฉันท์ปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเหมาะสมกว่า การนัดรวมพลังคนเสื้อแดง เพื่อมากดดันที่หน้ารัฐสภาเพราะไม่สามารรถสร้างประโยชน์ใดๆ ได้ เนื่องจากกระบวนการแก้ไข รธน.กำลังดำเนินไปตามกลไกของรัฐสภาอยู่แล้ว การชุมนุมคนจำนวนมากอาจสร้างปัญหาต่อความสงบเรียบร้อยต่อบ้านเมือง และก่อปัญหาจราจรขึ้นเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้เลวร้ายลงไปอีก
“สถานการณ์เมืองในช่วงนี้คนส่วนใหญ่ของสังคมไทย ต้องการความสงบ แต่เครือยข่ายทักษิณ ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงกลับเคลื่อนไหวมีกิจกรรมตลอดเวลา เคลื่อนไหวทางการเมืองสอดคล้องอย่างเป็นระบบ ระหว่างกลุ่ม นปช. สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น การจัดดินเนอร์ทอล์กของกลุ่ม นปช. และการออก นสพ.รายสัปดาห์ ชื่อเรดนิวส์ เพื่อต้องการเปิดสื่อเทียมสู้กับสื่อสารมวลชนกระแสหลัก ซึ่งในที่สุดไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรดนิวส์ หรือแบดนิวส์ กันแน่ รวมถึงการเคลื่อนไหวของอดีตคนบ้านเลขที่ 111+37 เพื่อแข่งขันกอล์ฟรวมพลังสร้างภาพทางการเมืองเพื่อชิงถ้วยรางวัลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเรื่องประหลาดในวงการกอล์ฟโลกที่มีการจัดแข่งขันบนสนามกอล์ฟที่สร้างจากการเอาที่ดินวัดหรือธรณีสงฆ์มาขายให้นายทุนจัดสรร หนำซ้ำยังเป็นการชิงถ้วยรางวัลของนักโทษที่หลบหนีคดี และผู้ที่เข้าแข่งขันก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินทางการเมือง เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์การเมืองไปแล้ว จึงเป็นเรื่องที่อันซีน ที่กินเนสส์บุ๊กควรหยิบยกไปบันทึกเป็นสถิติของโลก” โฆษกส่วนตัวนายกฯ ระบุ