xs
xsm
sm
md
lg

"เทพไท"ลั่นขอขัดขวางทุกทาง ไม่ยอมนักการเมืองเกี้ยเซี๊ยะ แก้รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรี
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซัด “นช.แม้ว” พูดเอาดีแต่ได้ แถลงการณ์โวยวายบอกถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดี ทั้งที่สามารถสูคดีได้กลับไม่ทำ ย้อนทีเรื่องที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง กลับตีหน้าดีใจยอมรับในกระบวนการยุติธรรม เมื่อถูกฟ้องคดีก็ออกมาโวยวาย ปฏิเสธอยู่เบื้องหลังตำรวจ ชี้สังคมจับตาแก๊งหางแดงเริ่มเคลื่อนไหว หวั่นพยายามหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เผยพร้อมตรวจสอบข่าวล็อบบี้กรรมการสมานฉันท์แลกแก้รัฐธรรมนูญ ลั่นหากเป็นจริงขอขัดขวางทุกทาง ไม่ยอมให้นักการเมืองสมประโยชน์เกี้ยเซี๊ยะกันเองแน่

วันนี้(16 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึง กรณีตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในมาตา 112 และมีแถลงการณ์ ฉบับ 3/ 2552 ซึ่งมีลักษณะพาดพิงว่าตัวเองโดยกลั่นแกล้งให้ถูกดำเนินคดี ซึ่งตนคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่พูดเอาแต่ได้ วันที่ตัวเองทำผิดและถูกดำเนินคดีตามกฏหมายชัดเจน แต่กับไม่ยอมรับแต่วันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการกับคนอื่นก็ส่งทนายมาฟ้องร้องหลายคดี เพราะฉะนั้น คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องกับไปตั้งหลักว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และการที่ตำรวจดำเนินคดีในครั้งนี้ ถือเป็นกระบวนการเบื้องต้น สามารถสู้คดีได้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิดก็เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ แต่สิงที่พ.ต.ท.ทักษิณ พูด ในแถลงการณ์ซึ่งบอกว่าในอดีตมีการพยายามใส่ร้ายป้ายสี และดำเนินคดีกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในทำนองนี้หลายคดี แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เพราะระหว่างตำรวจ อัยการ และศาลมีการถ่วงดุลกัน เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องก็เป็นขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม และพ.ต.ท.ทักษิณ ก็รู้สึกภูมิใจเห็นดีเห็นงาม แต่วันที่ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกก็กลับมาโวยวาย ว่าไม่ได้รับความยุติธรรม

นายเทพไท กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่า ตนประสงค์ที่จะเห็นความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ทั้งหมดจะต้องเริ่มต้นที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อน การที่บอกว่าถูกยัดเยียดข้อหา และพยากรณ์ว่า แนวโน้มในอนาคตจะดำรงอยู่ต่อไปยังไม่จบสิ้นก็หมายความว่า ความขัดแย้ง การทำลายล้างทางการเมือง และ หากตัวเองถูกดำเนินคดีนั้น ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องแยกให้ออกระหว่างพฤติกรรมในอดีต ว่ามีความผิดทางกฎหมาอย่างไร ถ้ามีความผิดทางกฎหมายไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็หนีขบวนการตามกฎหมายไม่ได้

นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย พูดถึงการดำเนินคดีของตำรวจ ว่ามีเบื้องหลังและใช้ 2 มาตรฐานนั้น ตนขอเรียนว่ากระบวนการทั้งหมด รัฐบาลไม่ได้อยู่เบื้องหลังเรื่องใดทั้งสิ้น เป็นกระบวนการยุติธรรมที่ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดี ดังนั้น การอ้างรัฐบาลว่า 2 มาตราฐานในการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตนคิดว่าเหตุการณ์การกระทำผิดของกลุ่มพันธมิตรนั้น ต้องกลับไปดูว่าเกิดขึ้นในรัฐบาลไหน และอยากตั้งคำถามกลับด้วยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะนั้นทำไม่รัฐ่บาลขณะน้นไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ทั้งที่มีโอกาศเพราะกุมอำนาจรัฐ

“วันนี้รัฐบาลประชาธิปัตย์มาสานต่อ นปช.ทำผิด ในความรับผิดชอบในรัฐบาลประชาธิปัตย์ ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และขณะเดียวกันก็ต้องสานต่อคดีที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อนด้วย ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ใช้ 2 มาตราฐาน ผมเชื่อว่าหลังจากนี้คงจะมีคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาอีกหลายคดี และวันนี้กระวบนการยุติธรรมได้ดำเนินการกับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างน้อง 17 คดี และคดีก็งวดขึ้นมาทุกที และเชื่อว่ามีผลต่อการบังคับคดีออกมาเป็นระยะๆ แต่ไม่อยากให้มีการหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาใส่ร้ายรัฐบาลว่าอยู่เบื้องหลังทั้งที่กระบวนการทั้งหมดอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้” นายเทพไท กล่าว

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า หากมีการดำเนินคดีอาจจะเป็นการขัดต่อแนวทางสมานฉันท์ของรัฐบาลนั้น นายเทพไท กล่าวว่า เรื่องคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับเรื่องของคณะกรรมการสมานฉันท์เป็นคนละเรื่องกัน ไม่ได้หมายความว่า ถ้าต้องการให้บ้านเมืองสมานฉันท์ รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ต้องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในคดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้หมายความว่า หากจะสมานฉันท์จะต้องเลิกแล้วต่อกันในการกระทำผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ในอดีต ถ้าเป็นอย่างนั้น คิดว่า สังคมคงไม่ยอม ส่วนการที่พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่า แนวโน้วการดำรงอยู่ ความขัดแย้งทางการเมืองไม่มีวันจบสิ้น ตนเชื่อว่า จะเป็นจริงได้ เพราะทั้งหมดอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้สถานการณ์ในอนาคตทางการเมืองเป็นอย่างไร เพราะสถานการณ์ในวันนี้ทั้งหมดที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ตนไม่แน่ใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ เพราะวันนี้เห็นตามสื่อว่า นปช.ยังคงเลื่อนไหว อยู่ตลอดเวลา ยังคงเป็นเวปไซด์ไทยนิวส์ และนสพ.ไทยนิวส์ รวมถึงปฺดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเที่ยว ดีสเตชั่น 2

“อยากถามว่าคนเหล่านี้ หากไม่มีการสนับสนุนเรื่องเงินทุน มาจากแหล่งทุนใหญ่แล้ว คนเหล่านี้จะเอาทุนมาจากไหน การที่กลุ่มคนเหล่านี้ จัดฉากสร้างเรื่อง บังหน้า โดยการจัดดินเนอร์ทอล์ก ภายใต้ชื่อ “อนาคตประชาธิปัตไตย ใต้ฟ้าสีเทา “ เพื่อหาทุนเข้าพรรคนั้น ผมอยากถามว่า แค่หัวข้อการจัดดินเนอร์ทอล์ก คำว่า ฟ้าสีเทานั้น สื่อความหมายอะไร เพราะเป็นการพูดกระทบเสียดสี ไปยังสถาบันใดหรือไม่ก็อยากให้สังคมจับตาดู การใช้ถ้อยคำของกลุ่มคนเหล่านี้ ว่าไปพาดพิงสถาบันเบื้องสูงหรือไม่” นายเทพไท กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ตำรวจดำเนินคดีพ.ต.ท.ทักษิณ จะถูกมองว่าเป็น 2มาตรฐานหรือไม่ เพราะตำรวจที่รับผิดชอบคดี นามสกุล ปราศจากศัตรู ที่มีความเกี่ยวโยงกับพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท กล่าวว่า ความจริงแล้วตำรวจท่านั้น เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งความรับผิดชอบก็อยู่ในหน่วยงานอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยปกติ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะไม่ว่าจะเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ หรือใครก็ตามที่ทำความผิด ตามตามาร 112 ในข้อหาหมิ่นพระบรมราชนุภาพ ก็ต้องถูกดำนินคดีอยู่แล้ว

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตลอดเวลา 60 ปี พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตี 2 หน้ามาตลอดนั้น ตนอยากถามว่า ความหมายของนายพีรพันธุ์ เรื่องการตี 2 หน้า คืออะไร เพราะพรรคทำการเมืองไม่เคยตี 2 หน้า และอุดมการณ์ของพรรคไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ อุดมการณ์ประชาธิปไตย ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ทำการเมืองโดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนต้องมาก่อน แต่หากจะกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นการตี 2 หน้า ตนขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะกระบวนการและขั้นตอนของพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นพรรคการเมืองใหญ่เชิงสถาบัน มีกฎเกณฑ์ พรรคการเมืองที่เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ จะไปเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองที่เหมือนถั่วงอกคงไม่ได้ เพราะพรรคการเมืองบางพรรคมีคนตัดสินใจเพียงคนเดียว แต่พรรคประชาธิปัตย์มีกระบวนการตัดสินใจหลายขั้นตอน ไม่เช่นนั้นคงไม่ยืนอยู่ได้ถึง 6 0 ปี

“วันนี้เห็นแล้วว่า เมื่อคณะกรรมการสมานฉันท์กดดันตัวแทนของพรรคตั้งแต่การยื่นประเด็นที่จะไปแก้ไข จะเห็นได้ว่ามีข้อท้วงติงจากสมาชิกพรรคบางส่วน ดังนั้น อยากให้พรรคการเมืองแต่ละพรรคเข้าใจการทำงานของพรรคการเมืองอื่นด้วย ไม่ควรเอาหลักเกณฑ์ของตัวเองมากำหนดและใส่ร้ายพรรคอื่น น่าเสียอาจารย์พีรพันธุ์ เป็นนักการเมืองที่เกิดขึ้นจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคเคยทุ่มเท ให้มาเป็นส.ส.ยโสธร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2528 ผมในฐานเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์พีรพันธุ์ ที่สอนกฎหมายที่รามคำแหง หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ชุบเลี้ยงอาจารย์พีรพันธ์ หรือหยิบขึ้นมาเป็นนักการเมือง วันนี้อาจารย์พีรพันธุ์เป็นอาจารย์แก่ ๆ คนหนึ่งที่เปิดตำรากฎหมายอยู่ในรามคำแหง อยากเรียกว่า หากอาจารย์พีรพันธุ์ จะให้ร้ายพรรคการเมืองที่ให้ชีวิตกับตัวเองก็ควรที่จะใช้ความระมัดระวัง และมีข้อมูลมากกว่านี้” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่ระบุว่า ขณะนี้เริ่มมีการล็อบบี้จากคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อให้ ส.ว.สรรหาร่วมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีการแลกเปลี่ยนให้ดำรงตำแหน่งส.ว.สรรหา เพิ่มเป็น 6 ปี จากเดิม 3 ปี ว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็แสดงว่าทุกคนทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ก็อยากถามว่า ประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ก็เป็นเรื่องการเกี้ยเซี๊ยะกันระหว่างนักการเมืองด้วยกัน ดังนั้น ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรักการเมืองก็จะต่ำลง และเป็นถอยหลังลงคลอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อส่งสัญญาณว่าไม่เห็นด้วยหรือไม่ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงมีการตรวจสอบว่าเรื่องนี้เป็นความจริงมากน้อยแต่ไหน และประเด็นใดบ้าง ที่จะเป็นเรื่องตกลงเรื่องประโยชน์กันเอง พรรคก็จะตามไปคัดค้าน อะไรก็ตามหากไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วม พรรคก็จะไม่ยอม และพรรคก็คงดำเนินการรับฟังความเห็นของประชาชนไปพร้อมๆกัน โดยผ่านเว็ปไซด์พรรคประชาธิปัตย์ และการลงพื้นที่ของส.ส. อย่างไรก็ตามคิดว่ากรรมการสมานฉันท์ฯและอนุกรรมการชุดต่างๆก็ไม่ควรรวบรัดเอาเงื่อนเวลามาเป็นตัวกำหนดแต่น่าจะรับฟังความเห็นประชาชน ในลักษณ์ประชาพิจารณ์ในพื้นที่ต่างๆด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น