“อลงกรณ์” แจงกลางสภา ยัน รัฐมนตรีพาณิชย์ มีอำนาจตั้งเจ้าพนักงานจับผู้ค้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าโดยไม่ต้องแจ้งตำรวจท้องที่ พร้อมเตรียมเสนอบัญชีดำเจ้าหน้าทีรัฐเอี่ยว ชุด 2 เร็วๆ นี้
วันนี้ (12 พ.ค.) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงต่างๆ จำนวน 6 ฉบับ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ขอหารือที่ประชุมถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าข้าจับกุมสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าที่ย่านพัฒนพงษ์ เขตบางรัก กทม.ว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ไม่แยกแยะระหว่างพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าถูกกฎหมายกับพ่อค้าที่ค้าของผิดกฎหมาย จนทำให้เกิดการปะทะกัน
ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงพร้อมชูแผ่นซีดีในมือ ว่า รมว.พาณิชย์ มีอำนาจออกประกาศแต่งตั้งเจ้าพนักงานจับกุมผู้ค้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้ทราบก่อน ซึ่งเจ้าพนักงานจับกุมสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าที่ถูกแต่งตั้งขึ้น มีอำนาจจับกุมได้โดยตรง
“ส่วนกรณีที่เป็นข่าว เมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า จะมีการกระทำใดๆ ที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ผมได้ตรวจสอบพบว่ามีภาพบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่ต้นอยู่ในซีดีแล้ว จะบ่งชี้ว่า การจับกุมในช่วงแรกเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม เจ้าหน้าที่ได้แสดงตนและชูบัตรที่ได้รับการแต่งตั้งให้พ่อค้าแม่ค้าได้รับทราบ ซึ่งเจ้าของร้านบางรายก็ให้ความร่วมมือด้วยดีและช่วยเก็บของกลางให้เข้าหน้าที่ แต่ระหว่างที่จะเคลื่อนย้ายของกลางไปยังโรงแรมมณเฑียร ได้ปิดไฟในซอยและปิดล้อมเจ้าหน้าที่ ซึ่งภาพที่เป็นข่าวออกตามสาธารณะนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนช่วงปลายเท่านั้น” นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ดังกล่าว ได้ขายของเถื่อนและของละเมิดเครื่องหมายการค้ามาเป็นเวลานาน โดยมีกลุ่มมาเฟียทั้งมีสีและไม่มีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง แย่งชิงผู้ต้องหาและของกลางต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ จนมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ซึ่งตนจะให้ความเป็นธรรมกับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าถูกกฎหมาย และได้รับผลกระทบจากการจับกุมครั้งนี้อย่างเต็มที่ หากเจ้าหน้าที่รายใดกระทำการเกินกว่าเหตุจะต้องถูกลงโทษ
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะทำต่อไปคือการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ไม่ให้เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ชูเรื่องการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นวาระแห่งชาติ แหล่งไหนที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้อง ตนก็ได้ไปจับกุมแล้ว ในฐานะที่ดูแลเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้เคยแจ้งรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ จำนวน 41 คน ต่อคณะรัฐมนตรี และต่อจเรตำรวจไปแล้ว ทราบว่าขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการคืบหน้าไปกว่า 80-90% แล้ว และตนเตรียมจะยื่นรายชื่อผู้ที่อยู่ในบัญชีดำชุดที่สองในเร็วๆ นี้ด้วย