“พระพยอม” กลับลำด่า “ทักษิณ” หลังเสื้อแดงเผาเมือง แต่ยังตะแบงด่า รบ.อภิสิทธิ์ “ปล้นเขามา”

ASTVผู้จัดการออนไลน์ – “พระพยอม” เสียงอ่อยหลังเสื้อแดงเผาเมืองช่วงสงกรานต์ หันมาด่า “ทักษิณเป็นคนไม่ดี” แต่ยังตะแบงใช้ตรรกะบิดเบือนของเสื้อแดงด่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ปล้นอำนาจเขามา-ประพฤติสองมาตรฐานกับ นปช.-พันธมิตร ระบุสถานการณ์การเมืองจะสงบถ้า แดง-เหลือง-น้ำเงิน ตายสักฝ่ายละล้านคน เหมือนสงครามในเขมร

วันเสาร์ (9 พ.ค.) ที่ผ่านมา เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์พิเศษของ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี หลังเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ก่อการจลาจลขึ้นในกรุงเทพมหานครและ จ.ชลบุรีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้พระพยอมได้เคยแสดงจุดยืนเข้าข้างและเอื้อเฟื้อต่อกลุ่ม นปช.อย่างมาก อย่างเช่น การเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ซึ่งเป็นสื่อที่แสดงจุดยืนอยู่ข้าง นปช.มาตลอด รวมไปถึงกรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ย.51 ที่อนุญาตให้กลุ่มเสื้อแดงจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ภายในวัดสวนแก้ว เป็นต้น ซึ่งขณะนั้นเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วเคยยืนยันถึงการตัดสินใจให้กลุ่มเสื้อแดงจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า

“นักการเมืองอย่าง คุณวีระ มุสิกพงศ์, คุณจตุพร พรหมพันธุ์, คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, คุณก่อแก้ว พิกุลทอง คนพวกนี้เขามีวุฒิภาวะที่จะไม่พูดอะไรที่ทำให้วัดต้องพังพินาศ หากว่าเขาพูดอะไรที่ส่อว่าจะพินาศ อาตมาเองมีคัตเอาต์อยู่ในมือ จะสั่งตัดไฟทันที คงไม่ปล่อยให้พูดอะไรที่จะทำให้เกิดเป็นความไม่ดี มันก็จบเรื่อง วัดต้องคุมเกมได้ และคงไม่ปล่อยให้มาพูดอะไรที่ทำให้เกิดความเสียหาย อาตมามีความเชื่อว่าคนพวกนี้คงไม่พูดจาฆ่าตัวเอง โดยการมาพูดแล้วทำให้เกิดเป็นความเสื่อมเสียแก่วัด และเสียหายแก่ตัวเอง”

สำหรับตอนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ที่กรุงเทพธุรกิจได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกว่าในขณะนี้พระพยอมจะวางตัวลำบากเนื่องจากทำตัวให้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งทางการเมือง โดยพระพยอมได้กล่าวแก้ตัวว่า ตนเองถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องและตนก็ไม่มีจุดประสงค์จะไปเข้าข้างใคร เพียงแต่ตอนนั้นวิจารณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เท่านั้น

“ความจริงต้องบอกอาตมาถูกเหวี่ยงออกไป ความจริงอาตมาก็ชอบใจการเมืองใหม่ของพันธมิตรเหมือนกัน เขาผลักเรากระเด็นออกมาเร็วไป ตอนนั้นอาตมาวิจารณ์แค่ว่าเวทีพันธมิตร ด่ากันหยาบๆ คายๆ เอาเด็กไปร่วมชุมนุมด้วย เด็กเหมือนผ้าขาว จะซึมซับเข้าไป ติดแบบก้าวร้าวแบบผู้ใหญ่ พูดแค่นี้ สนธิ ลิ้มทองกุล โกรธเกลียดอาตมา” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วระบุ พร้อมกล่าวพาดพิงถึง นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ด้วยว่าพอตนไม่ด่า พ.ต.ท.ทักษิณ นายเจิมศักดิ์จึงออกมาด่าตน

ต่อมาเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อปี 2551 พระพยอมติติงเสื้อเหลืองตอนชุมนุม แต่พอปีนี้เหตุใดจึงไม่ติติงเสื้อแดงว่าก่อความรุนแรงบ้าง โดยในประเด็นนี้พระพยอมตอบว่า

“ปัดโธ่ นี่มันปัญหาใหญ่ อาตมาถูกปลดผังทางทีวีออกหมด ดีบ้างไปออกรายการทางดาวเทียม แต่คงไม่กว้าง คือถ้าอาตมา พูดเป็นนักเขียนนะ จะโง่ไปยึดข้างใดข้างหนึ่ง เวลามันทำผิดเราไปด่ามันไม่ได้สิ เวลามันทำดี จะชมก็ไม่ได้ แล้วเรื่องอะไรจะไปปิดประตูการทำงานของเราล่ะ อาตมาก็เขียนว่า เสื้อแดงแพ้เพราะเกินเลย คนที่ช่วยนายกฯ อภิสิทธิ์ได้ดีที่สุดก็คือ คุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ถ้าเสื้อแดงไม่บ้าระห่ำขนาดนั้น อาจชนะไปแล้ว แต่พอไปทำกับเขารุนแรง เอาพวกบ้าคลั่งเข้าไป เราก็ว่าได้เห็นไหม ตอนนี้เหตุการณ์มันจางแล้ว ความจริงบางอย่างที่เขาไม่ค่อยดี ก็เขียนตำหนิไป เช่น รวยแล้วไม่มีความสุข เพราะรวยเกินเหตุเกินควร เรื่องนี้ก็เขียน เอาง่ายๆ เสื้อแดงมาด่าว่า หลวงพ่อเปลี่ยนสีหรือไง คือตอนอภิสิทธิ์ขึ้นนายกใหม่ๆ อาตมาว่า เราใช้นายกฯ เปลืองสามสี่ปีแล้ว ให้นายกฯ นี้ทำงานก่อน พูดแต่นี้เสื้อแดงว่า เปลี่ยนสีแล้วหรือไง ส่วนเสื้อเหลืองมันมีไอ้พวกสุดโต่ง อาตมาไปบิณฑบาต มีพวกเสื้อเหลืองแซว ทำไมไม่ห่มจีวรสีแดงมาบิณฑบาต เปลี่ยนสีแล้วหรือไง ก็กูห่มเหลืองมาก่อนพวกมึง” พระราชธรรมนิเทศระบุ

กระนั้น ได้กล่าวตำหนิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องหาหลบหนีโทษพิพากษาจำคุกของศาลฎีกาด้วยว่า เป็นพวกสุดโต่งเกินไปและเป็นคนไม่ดี “... อาตมาเชื่อว่าทักษิณไม่ดี และมีการใช้ความเกลียดชัง อิจฉา อัดเสริมเข้าไปอีก 2 เท่า นั่นก็เน่าไปเลย ไม่เหลือดี มันก็มีดีบ้าง คนเราไม่ชั่วไปทั้งหมดหรอก และไอ้คนที่ว่าเขาไม่ได้ มันเองก็ไม่ได้ดีทั้งหมด…”

ต่อมาเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วยังกล่าวยอมรับด้วยว่า มีคนมาทำบุญที่วัดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังเหตุการณ์ใหม่ๆ ขณะที่ระบุว่าคนมีชื่อเสียงอย่างเช่น นายกนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังก็ออกมาแสดงความเห็นว่าเสียดายเงินที่บริจาคให้วัดสวนแก้ว ทำให้สถานการณ์ของวัดยิ่งแย่

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว พระพยอม กัลยาโณ ยังคงมีความเชื่อผิดๆ หลายประการเกี่ยวกับปัญหาการเมืองไทย อีกทั้งยังใช้วาทกรรมแบบเดียวกับที่คนเสื้อแดงใช้หลอกลวงประชาชน อย่างเช่น เรื่องเจ้าหน้าที่ใช้สองมาตรฐานกับผู้ชุมนุมเสื้อแดงและกลุ่มพันธมิตรฯ และกรณีระบุว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ปล้นอำนาจจากรัฐบาลนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ มา เป็นต้น

“ไม่มีใครยอมมั้ง ในเมื่อไปปล้นเขามา (หมายถึงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) …คุณคิดหรือว่า พวกท่อน้ำเลี้ยงจากธนาคาร บริษัท ไม่มีคนรู้หรือ... มันจะเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่แค่นักการเมืองฝ่ายซ้ายขวารบกัน แต่ยังมีนักธุรกิจฝ่ายใคร พอฝ่ายนี้ได้เป็นรัฐบาล กลุ่มโน้นต้องอดยากปากแห้งแปดปี แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นมั้ง แต่ฝ่ายนี้บอกสามปี กูก็คอยไม่ไว้แล้ว” พระพะยอมระบุ

นอกจากนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร พระพยอมก็ให้คำตอบว่า

“เปลี่ยนสิ ถ้ามาถึงขั้นแบบเขมร แดงตายล้านหนึ่ง เหลืองตายล้านหนึ่ง น้ำเงินตายอีกล้าน เรื่องก็จบ แต่ถ้ามีบุญวาสนาของประเทศ ผู้มีบุญบารมี พูดกันรู้เรื่อง กับคนฟังรู้เรื่อง อันนี้ก็จบด้วยการฟังกัน กับจบด้วยคำสั่งศาล จะเอาแบบไหน ศาลโลกเพราะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าพระพยอมหมายความว่า ต้องเกิดสถานการณ์เลวร้ายที่สุดถึงขั้นนองเลือดจึงจะยุติอย่างนั้นหรือ ท่านก็ตอบย้ำว่า “(ตาย) คนละล้าน จากนั้นก็กลับมาสมานสามัคคี”

อ่านฉบับเต็ม :
- พระพยอม จุดยืนไม่เอาม็อบบ้าระห่ำ-แจงถูกเกลียด จาก เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ