“ทักษิณ” ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ผ่านสื่อหลายสำนัก เรียกร้องขอความเป็นธรรม อ้างความเป็นนักประชาธิปไตยแต่เพียงผู้เดียว กล่าวโทษรัฐบาลใช้อำนาจป้ายสีตนและครอบครัวให้ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ส่อสันดานปลิ้นปล้อนไม่ได้เป็นหัวหน้าม็อบชักใยเสื้อแดง ร่วมขบวนการต่อสู้โดยยึดหลักสันติ
วันนี้ (1 พ.ค.) ทีมงานของนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ภายหลังจากเกิเหตุการณ์การสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง 12-13 เม.ย.2552 มายังจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ของผู้สื่อข่าวหลายสำนัก โดยใจความสำคัญในคำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังหรือปลุกระดมการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ และไม่ได้เป็นผู้ชักใยสร้างความวุ่นวายทางการเมือง ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งสาเหตุการออกแถลงครั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองและครอบครัว ตลอดคนกลุ่มสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณที่มาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมืองของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหนึ่ง
โดยรายละะเอียดคำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ฉบับที่ 2 มีดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ 2/2552 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อเรื่อง “ประชาธิปไตยที่แท้จริงคือรากฐานของการปรองดองแห่งชาติ ”
ภายหลังจากที่การชุมนุมของประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยถูกสลายโดยกำลังทหารที่ใช้อาวุธสงคราม และต่อมามีการบิดเบือนและกล่าวหาผมอย่างเป็นระบบโดยผู้มีอำนาจว่า ผมเป็นผู้นำม็อบเพื่อสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง และกล่าวหาว่าการชุมนุมของประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยนั้นได้กระทำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของผมและครอบครัว และมีแนวโน้มว่าการบิดเบือนใส่ร้ายจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคน
ผมขอเรียนว่า แม้ว่าผมได้ให้กำลังใจแก่ประชาชนผู้มาชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และความเป็นธรรม การดำเนินการของผมในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้กระทำไปด้วยสำนึกในความปรารถนาและความพยายามของคนไทย ที่ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและความเป็นธรรมที่แท้จริง เพราะประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะเป็นรากฐานของการปรองดองของคนในชาติ และการปรองดองของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไปได้ โดยผมได้ย้ำว่าการดำเนินการต้องกระทำโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง และปราศจากอาวุธ
แม้ผมพำนักอยู่ในต่างประเทศ แต่ผมก็ยังคงรักประเทศชาติ และห่วงใยชีวิตคนไทยไม่น้อยไปกว่าเมื่อครั้งที่ผมยังเป็นนายกรัฐมนตรี และผมปรารถนาที่จะเห็นบ้านเมืองของเราเดินหน้าต่อไป เพื่อให้ประเทศและประชาชนคนไทย สามารถฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดในครั้งนี้ไปให้ได้ ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาล และทุกภาคส่วนของไทยให้เปิดใจให้กว้างและยอมรับว่าการชุมนุมโดยสงบ สันติ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยนั้นย่อมกระทำได้ และผมขอสนับสนุนและให้กำลังใจการดำเนินการตามแนวทางนี้
ผมเห็นว่าประโยชน์ของชาติต้องมาก่อนประโยชน์ส่วนตัวของผม และ เพื่อป้องกันมิให้มีการบิดเบือนว่าการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนผู้รักประชาธิปไตยกลุ่มใดๆนั้น ได้กระทำไปเพื่อตัวผมเอง ทั้งๆที่ในความเป็นจริง พี่น้องประชาชนเหล่านั้นดำเนินการไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย และความเป็นธรรมที่แท้จริงในประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่สูงส่งและมีคุณค่าสำหรับคนไทยทุกคน
ดังนั้น โดยแถลงการณ์นี้ ผมขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า แม้ผมเป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมเดินบนเส้นทางในการเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมให้กับคนไทย แต่ผมไม่ได้เป็นผู้ชักใยหรืออยู่เบื้องหลังการชุมนุมเพื่อสร้างความวุ่นวายทางการเมืองแต่อย่างใด ผมขอแถลงยืนยันมา ณ ที่นี้ เพื่อป้องกันมิให้ผม และพี่น้องประชาชนผู้รักสันติ ที่มาร่วมชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น ต้องตกเป็นเหยื่อของการบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมืองของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต่อไป
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
1 พฤษภาคม 2552