xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กเติ้ง” ออกโรงหนุนแก้ รธน.ปัดตัวกลางประสาน อ้างบารมีไม่ถึง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย
ตามคาด “บรรหาร” หนุนแก้ รธน. อ้างแม้ผ่านประชาพิจารณ์แต่ก็หวังจะแก้ภายหลัง เชื่อ “อภิสิทธิ์” จริงใจแก้ปัญหา หลังสถานการณ์กดดัน แนะบริหารบ้านเมืองต้องอดทนสูง ปัดเป็นตัวกลางประสานทุกฝ่าย อ้างไม่มีบารมี หวั่นถูกด่าถ้าทำไว้ไม่ดี วอนทุกฝ่ายเห็นแก่ประเทศ แนะปลดล็อก 111-109 ทำประเทศดีขึ้น เชื่อที่แอบใต้ดินจะขึ้นมาอยู่บนดิน-เลิกเป็นนอมินีได้

วันนี้ (21 เม.ย.) นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลมีแนวทางที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 50 มีปัญหา และในขั้นประชาพิจารณ์มีความเห็นว่าจะไม่รับ เพราะเห็นว่าหากนำมาใช้จะมีปัญหาเกิดขึ้นหลายมาตรา เช่น มาตรา 190 มาตรา 237 และมาตรา 68 แต่กระแสขณะนี้ต้องการรัฐธรรมนูญ จึงบอกให้สมาชิกให้ไปบอกชาวบ้านว่าให้รับไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขภายหลัง ซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคม เพราะฉะนั้นตนเห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขโดยแก้บางมาตรา ซึ่งจะต้องแยกคดีอาญาออกจากคดีทางการเมือง อย่าเอามาเกี่ยวข้อง เพราะคนไม่ได้ทำผิดแล้วไปบอกว่าเขาผิด ซึ่งไม่มีใครยอมรับได้

“ส่วนจะแก้อย่างไรอยู่ที่ส่วนรวม แต่น่าจะแก้เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และเข้าใจอันดีซึ่งกันและกัน ส่วนระยะเวลาก็แล้วแต่เหตุการณ์ในอนาคต ผมมองว่านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจในเรื่องนี้ เพราะท่านเห็นเหตุการณ์การเมืองมันกระชับเข้ามาอีกแล้ว คนเราอาจเปลี่ยนความคิด เมื่อท่านเกิดความคิดอย่างนี้ก็เกิดความปรองดองได้ของคนบางกลุ่มจะเกิดประโยชน์มาก เราอย่าไปแยกออกเป็นคนละพวกกัน ถ้าแก้ก็ได้ ถ้าไม่แก้ก็ไม่เป็นไร ผมก็จะไปอยู่กับมังกร” นายบรรหาร กล่าว

นายบรรหารกล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาว่า เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้น และมีถ่ายทอด ประชาชนทั่วประเทศจะได้รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ตอนที่ติดอยู่ที่พัทยากระทรวงมหาดไทยเป็นอย่างไร และที่เสื้อแดงบอกว่าไม่ได้ทำ ประชาชนจะได้ใช้วิจารณญาณเอาเอง ส่วนที่มองว่าจะมีเหตุการณ์ป่วนในห้องประชุมร่วมรัฐสภา ตนคิดว่าอยู่กับประธานสภาฯจะควบคุมการประชุม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่น่าจะเหมือนกับประเทศไต้หวัน แต่คงไม่ถึงกับขว้างรองเท้าเข้าหากัน ถ้าเป็นอย่างนั้นประธานสภาก็ให้ออกจากห้องประชุม เพราะฉะนั้นประธานสภาฯ จะต้องเข้มงวด

นายบรรหารกล่าวถึงการบริหารงานของรัฐบาลขณะนี้ว่า เห็นใจเพราะในยามที่ภาวะเหตุการณ์การเมืองเป็นอย่างนี้ การบริหารงานให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกคงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ก็ต้องใช้ความสามารถและความอดทนอย่างสูง ความเข้าใจซึ่งกันและกัน และถ้าทำได้ก็หาทางเจรจากัน แต่จะทำได้ถึงขั้นไหนก็คงตอบไม่ได้ แต่เหตุการณ์ก็เลยเถิดไปไกลแล้ว จะหวนกับไปก็คงยากละบาก ขอวิงวอนแต่ละฝ่าย รวมทั้งฝ่ายเสื้อแดงเห็นแก่ประเทศชาติ เพราะตอนนี้เศรษฐกิจก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าหยุดแล้วการท่องเที่ยว การส่งออกก็จะดีขึ้น ส่งผลต่อไตรมาสที่สี่จะดีขึ้น รายได้ที่หายไปแสนล้านบาทก็จะกลับคืนเข้ามา ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ตลอด

เมื่อถามว่าอายุรัฐบาลอยู่ได้นานหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าตอบว่ายาวไปอีกฝ่ายก็ด่า ถ้าตอบสั้นไปอีกฝ่ายก็ว่า ไม่ตอบดีกว่า เอาว่าอยู่ได้แค่ไหนก็ถึงเท่านั้นแหละ อยู่แค่ไหนตนตอบไม่ได้ อาจจะเป็น 1-2 ปีตอบไม่ได้

เมื่อถามว่าทางการข่าวยังประเมินว่าสถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ นายบรรหารกล่าวว่า ก็ประมาทไม่ได้ ความจริงก็รู้จักกัน ไม่ว่าแดง เหลือง น้ำหมึก รู้จักกันทั้งนั้นแหละ แต่ความไม่เข้าใจกันมันก็มีปัญหา เมื่อถามว่าควรจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีกนานไหม นายบรรหารกล่าวว่า ฝ่ายเอกชนก็เรียกร้องอยากให้ยกเลิก เช่น การท่องเที่ยว ตราบใดที่คง พ.ร.ก.ไว้คนก็ไม่เข้าประเทศ เพราะมองว่าเมืองไทยก็ไม่ปลอดภัย คิดว่าคงสักระยะหนึ่งให้เหตุการณ์คลี่คลายแน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในทางที่ร้ายแรงก็คงจะประกาศยกเลิก คิดว่าคงไม่ทิ้งไว้นาน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรไปถึงคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวในต่างประเทศหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ความจริง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็นับถือกันเป็นพี่น้อง แต่ตนก็ห่างมาพอสมควร ก็ไม่ทราบว่ามีแนวคิดอย่างไร ซึ่งมีภาคเอกชนบางคนก็เสนอว่ารัฐบาลไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ คงเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องจะไปดำเนินการ ส่วนตนก็หวังและวิงวอนขอให้หันหน้าเข้าหากัน ถ้าจูบไม่ได้ที่ปากก็จูบกันที่แก้มก็ยังดี หันหน้าเข้าหากันก็จะดีขึ้น

เมื่อถามว่าจะเป็นโซ่ข้อกลางหรือเป็นคนกลางในการเจรจาหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ไม่มีใครยอมรับตนหรอก และตนก็ไม่พร้อมที่เป็นตัวกลาง เพราะบารมีไม่ถึง บารมียังต่ำต้อย คนกลางตอนนี้หายาก อย่างที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯบอกว่าหลังสงกรานต์จะมีคนกลางก็มองไม่เห็นใคร ตอนนี้อยากมาก เพราะบางทีทำไปถ้าไม่ดีก็ถูกด่า โดยเฉพาะสื่อมีความมีความสำคัญพอมีแนวคิดจะปลดล็อคให้อดีต 111 และ 109 ก็เขียนว่าซากศพ เขายังเป็นคน ซึ่งสื่อก็มีส่วนทำให้บ้านเมืองสงบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีการนิรโทษกรรม นายบรรหารกล่าวว่า ยังไม่มีความเห็น แต่คงไม่เกี่ยวกับคดีอาญา ส่วนคดีการเมืองก็ไม่ทราบว่าขอบเขตจะไปถึงไหน แต่ต้องให้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม มันต้องมี ยามบ้านเมืองอย่างนี้จะเอาเรื่องนี้ไปกดอีกก็คงไม่ไหว ซึ่งถ้าทำได้ก็จะดีขึ้น ที่อยู่ใต้ดินก็ขึ้นอยู่บนดิน ไม่ใช่นั้นก็แอบอยู่ข้างหลังเรื่อยเป็นนอมินี เป็นตัวเชิด

เมื่อถามว่าในช่วงนี้นายกฯกับรัฐมนตรีแต่ละคนจะไม่ปลอดภัย นายบรรหารกล่าวว่า ก็ต้องใส่เสื้อเกราะ ตนไม่ได้ใส่เสื้อเกราะ แต่สมัยที่ตนเป็นนายกฯ ใส่เสื้อเกราะ เพราะมีคนจะลอบยิงตน เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
กำลังโหลดความคิดเห็น