“จตุพร” เปรียบ “อำนวย” จิ้งจกเปลี่ยนสี เปลี่ยนรัฐบาลพูดอย่าง ซัด โคตรกะล่อน จับกุม “อริสมันต์” บอกอย่างกลับทำอย่าง ยังระรานพันธมิตรฯไม่เลิก อ้างได้รับการดูแล ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ผิดกับกลุ่มคนเสื้อแดงโดนเล่นงานเสียยับ จวกคนเสื้อน้ำเงินหนังเหนียวไม่โดนจับ แก้ต่างแทน “จักรภพ” หนีกบดาน ไม่ใช่เพราะขี้ขลาด แต่ชิงชังกระบวนการยุติธรรมไทย ขู่ มีหลักฐานเก็บไว้แฉอีกเพียบ ลั่น ใครรุกรานเจอสวนกลับแน่
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวถึงการแถลงข่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่ายุคใดตำรวจก็หาทำยาได้ยาก ไม่แน่ใจว่า ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ยังจะพูดเหมือนเดิมหรือไม่ หรือจะเป็นเหมือนจิ้งจกบนเพดานที่สามารถเปลี่ยนสี โดยเฉพาะ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ที่บอกว่า การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาลชุดที่แล้ว หน่อมแน้มนั้น ความจริงแล้วคนที่หน่อมแน้ม ก็คือ เจ้าหน้าที่ ทำไมวันนั้นจึงไม่ดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯเหมือนวันนี้ ถือว่า วันนี้ สตช.มี 2 มาตรฐาน และไร้มาตรฐาน กลุ่มพันธมิตรฯไม่ถูกจับ และคดีก็ไม่คืบหน้า คดียึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ไม่มีหมายจับ มีเพียงหมายเรียกแล้วอ้างว่าเพราะเขาจะไม่หลบหนี
นายจตุพร กล่าวว่า พล.ต.ต.อำนวย ยังแสดงความกะล่อน จากกรณีที่นำตัว นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ โดยช่วงแรกระบุว่า จะนำตัวไปส่งศาล ในเวลา 13.00 น.แต่มาเบี้ยวในเวลา 12.30 น.โดยอ้างว่า ศาลไม่รับ แล้วท้ายที่สุดก็นำตัวไปที่ค่ายนเรศวร ซึ่งทำให้นายอริสมันต์ ขัดขืนในตอนนั้น นอกจากนี้ อยากถามว่า ที่ค่อยๆ แง้มข้อมูลออกมาเรื่องค่ายอดิศรนั้น เอาสิทธิอะไรไปปกปิดผู้ต้องหาเอาไว้ และตำรวจรู้เห็นเป็นใจได้อย่างไร สำหรับกรณีที่อ้างว่าไม่สามารถปิดเอเอสทีวีได้ เพราะมีคำสั่งของศาลปกครองคุ้มครองอยู่นั้น หากย้อนไปดูมติ ครม.สมัยรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะเห็นได้ว่า ครม.ได้มีมติให้กรมประชาสัมพันธ์ถอนคดีไปแล้ว ดังนั้น การคุ้มครองจึงไม่มีผลแล้ว เนื่องจากไม่มีคดีในศาลการคุ้มครองก็ย่อมไม่เกิด ซึ่งน่าสนใจว่า หากดีสเตชั่นโดนแบบเดียวกัน จะได้รับการปฏิบัติเหมือนกันหรือไม่ ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนที่ก่อเหตุยิงระเบิดเข้าไปในศาลรัฐธรรมนูญ เป็นฝีมือของคนเสื้อแดงนั้น ตนก็ขอตั้งค่าหัวคนร้ายที่ก่อเหตุจำนวน 50,000 บาท แต่การตั้งค่าหัวนั้น เป็นคนละกรณีกับคดีของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ
“การชี้แจงของ สตช.เหมือนไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ผมขอดูถูกเอาไว้เลยว่า ในสัปดาห์หน้าจะไม่มีการส่งฟ้องคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ และสงสัยว่า หากมีการฟ้องนั้น จะมีชื่อของ นายกษิตเป็นผู้ก่อการร้ายด้วยหรือไม่ ขอให้ทำความจริงให้ปรากฏ ไม่ใช่ลมเพลมพัด พูดแบบขอไปที และที่กล่าวหาว่า รัฐบาลชุดที่แล้วเป็นรัฐตำรวจนั้น วันนี้เป็นโคตรรัฐตำรวจ วิทยุชุมชนต่างๆ ใครเชียร์รัฐบาลก็จะไม่เข้าไปยุ่ง แต่ถ้าเป็นอีกฝ่ายจะถูกสั่งปิดหมด การปิดถนนถือเป็นเรื่องกระจอก แต่การปิดสนามบินถือเป็นการก่อการร้ายสากลรัฐบาลกลับไม่ทำอะไร หนำซ้ำยังให้เป็น รมว.ต่างประเทศ อีก ผมขอย้ำว่า พร้อมมอบตัว ขอให้นัดหมายมา คนเสื้อแดง 3 แสนคนพร้อมจะไปเป็นจำเลยร่วมกัน ขอให้เตรียมที่ไว้ขังคน 3 แสนคนไว้ด้วย วันนี้มันเป็น 3 มาตรฐาน มีเสื้อน้ำเงินเพิ่มขึ้นมา กลุ่มนี้หนังเหนียว ไม่ถูกข้อหาอะไรเลย ส่วนเสื้อแดงไม่ได้ทำอะไรก็มีสิทธิ์ติดคุกได้ ดังนั้น วันนี้แกนนำคนเสื้อแดงที่ไม่ไปมอบตัว เช่น นายจักรภพ เพ็ญแข ไม่ใช่เพราะว่าขี้ขลาด แต่เพราะชิงชังรัฐบาล ชิงชังกระบวนการยุติธรรม ที่อยุติธรรมของประเทศนี้ กรณีที่แกนนำกลุ่ม นปช.รุ่น 2 นัดชุมนุมในวันที่ 25 เม.ย.ที่จังหวัดสมุทรสาคร นั้น ถือเป็นเรื่องของแกนนำกลุ่ม นปช.รุ่นที่ 2 ว่าจะเคลื่อนไหวกันอย่างไร” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีมือที่สามที่สร้างสถานการณ์ตามจุดต่างๆ เช่น ที่เพชรบุรีซอย 7 และบริเวณถนนนางเลิ้ง รวมทั้งการนำรถเมล์มาเผาอย่างน่าสงสัย เนื่องจากขับรถมาคนเดียวก่อนที่จะเผาแล้วค่อยๆ เดินออกไปโดยไม่ถูกขัดขวาง อีกทั้งไม่พบการแจ้งเรื่องร้องเรียนกรณีถูกชิงรถเมล์ตลอดทั้งวันนั้น ใครทำก็ต้องรับกรรม รู้กันอยู่ว่าเวลานี้ใครคุมกระทรวงคมนาคม และดูแลโครงการรถเมล์ 4,000 คัน จะปล่อยให้ลอยหน้าลอยปากอยู่แบบนี้ไม่ได้ เพราะมันห้อยขนาดนั้น
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับการพูดในการประชุมร่วมรัฐสภานั้น จะมีเพื่อน ส.ส.เป็นคนเปิดคลิปต่างๆ ส่วนตนจะเน้นพูดเรื่อง 2 มาตรฐาน โดยเทียบระหว่างตนกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และเทียบระหว่างตนกับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกพูดเรื่องเอกสิทธิ์ของ ส.ส.เพราะตนไม่เคยใช้ หรือร้องขอเอกสิทธิ์นั้น แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 131 บังคับเอาไว้ว่าเห็นเอกสิทธิ์ของสภาที่จะต้องคุ้มครองสมาชิก ดังนั้น คนในพรรคประชาธิปัตย์ทั้งประธานวิปรัฐบาล อดีตหมอทำแท้ง หรือโฆษกขนเพชร อย่ามาสะเออะ สำหรับกรณีของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธัตย์ ที่ไปมอบตัวที่ สน.นางเลิ้ง นั้น ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะได้ประกันตัว และรัฐบาลชุดนั้นก็ไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าให้ตาย ไม่เหมือนกับรัฐบาลชุดนี้ ส่วนคลิปคนเสื้อแดงถูกทำร้ายที่มีการนำมาเผยแพร่กันในช่วงนี้ และระบุว่า ไม่ได้ถูกยิง เพียงแต่มีการใช้ด้ามปืนทุบหัวนั้น ถึงแม้ไม่ได้ถูกยิง แต่อยากถามว่ามีสิทธิอะไรที่เอาด้ามปืนไปทุบหัวประชาชน แต่ที่มีการยิงคนเสื้อแดงนั้นมีจริง ขอให้รอดูในสภา ส่วน 2 ศพที่ลอยน้ำมานั้น พี่ชายของเขาก็ยืนยันแล้วว่าเป็นการ์ดของ นปช.ดังนั้น ขอให้รอดู เพราะจะมีอีกศพที่ยังไม่ถูกเผา โดยในวันที่ 22 เม.ย.ส.ส.บางคนอาจจะนำศพไปที่สภาก็เป็นได้ ขอย้ำว่ายังมีหลักฐานอีกมากมายที่จะนำออกมาเปิดเผย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการนำคลิปไปเปิดในสภานั้น เกรงว่า จะถูกระงับหรือไม่ เพราะอาจจะถูกท้วงติงว่ามีเนื้อหาที่นำไปสู่ความขัดแย้งได้ นายจตุพร กล่าวว่า ยอมรับว่า มันมีความขัดแย้งในทุกภาพ เพราะเป็นการยิงกัน แต่ทั้งนี้ ขอเตือนว่า หากใครมารุกรานตนก็จะตอบโต้กลับไปทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายจตุพร ให้สัมภาษณ์อยู่นั้น มีกลุ่มคนเสื้อแดงมาห้อมล้อมโดยรอบประมาณ 30 คน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า น้อยคนที่ใส่เสื้อแดงมา ทำให้ นายจตุพร พูดขึ้น ว่า “ทำไมไม่ใส่เสื้อแดงกันล่ะ ไม่ต้องกลัว เอาไว้นัดชุมนุมที่ สตช.แล้วค่อยใส่เสื้อแดงมาแล้วกัน”