xs
xsm
sm
md
lg

ทะลึ่งแต่งชุดขาว! อ้างเป็นผู้พิพากษาตระเวนแจกซองผ้าป่า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจชนะสงคราม จับกุม 18 มงกุฎ สวมชุดขาวอ้างเป็นผู้พิพากษา ตระเวนแจกซองผ้าป่า มีชื่อผู้พิพากษาชื่อดังหลายคน และหลอกลวงเจ้าของร้านเสริมสวยช่วยวิ่งเต้นคดีเรียกรับเงิน จึงหลอกให้มารับเงินผ้าป่าที่ศาลหลักเมือง ก่อนจะสะกิดตำรวจรวบไว้ได้

วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ต.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส.สน.ชนะสงคราม นำกำลังเข้าจับกุม นายสมัย อุปราวัลย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 6 ต.นาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ พร้อมของกลาง เสื้อครุยผู้พิพากษา 1 ชุด เครื่องแบบข้าราชการสีขาว 1 ชุด เสื้อสูทผู้พิพากษาศาลฎีกา 1 ตัว เสื้อแจ็กเกตผู้พิพากษา 1 ตัว ป้ายชื่อ นายศรัญญ์ พรมสุรินทร์ ระบุตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูง 1 ชิ้น ระบุตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา 1 ชิ้น นามบัตรระบุชื่อ นายศรัญญ์ พรมสุรินทร์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ส่วนพระราชวัง จำนวน 5 ใบ ซองผ้าป่าทำปลอมชื่อวัดบ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีเงินสดจำนวน 79 ซอง รวมจำนวนเงิน 14,510 บาท และซองเปล่าจำนวน 28 ซอง โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าศาลหลักเมือง ถนนหับเผย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม.ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม โดยมี น.ส.กุลกนก จันทรา อายุ 47 ปี และ น.ส.สโรชา ทองหล้า อายุ 34 ปี สองผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน

น.ส.สโรชา เปิดเผยว่า ตนกับ น.ส.กุลกนก เปิดร้านเสริมสวยอยู่ในซอยเพชรเกษม 91 โดยเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น.ส.กุลกนก กำลังจะฟ้องร้องคู่กรณีที่เอาที่ดินมาจำนองไว้ในราคา 1 แสนบาท เมื่อ 9 ปี ก่อน แต่ไม่ยอมใช้เงิน เลยมีเพื่อนแนะนำให้ไปพบกับนายสมัย ซึ่งอ้างตัวว่าตัวเองชื่อ ศรัญญ์ พรมสุรินทร์ ทำงานอยู่ที่ศาลฎีกา สนามหลวง มีตำแหน่งใหญ่โต มีญาติทำงานในวังด้วย โดยไปพบครั้งแรกที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร นายสมัยก็บอกว่าจะช่วยทำคดีฟ้องร้องเอาเงินคืนมาให้ พร้อมจะเอาที่ดินผืนนั้นไปขายให้หลวงในราคา 10 ล้าน แต่จะแบ่งให้ตน 7 ล้านบาท และนายสมัยขอเงินค่าส่วนแบ่ง 3 ล้านบาท

ต่อมาช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายสมัยก็เข้ามาติดต่อตนกับ น.ส.กุลกนก ว่าจะให้ช่วยหากรรมการผ้าป่าที่วัดบ้านโนนสมบูรณ์ จ.อำนาจเจริญ โดยมีการนำซองผ้าป่าที่มีเงินใส่ซองมาแล้วและระบุชื่อผู้พิพากษาระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นนายจรัญ ภักดีธนากุล นายอักขราทร จุฬารัตน นายทองหล่อ โฉมงาม จึงทำให้ดูน่าเชื่อถือ ประกอบกับตนเองเป็นคน จ.อำนาจเจริญ จึงรับเป็นประธานผ้าป่าในครั้งนี้ แต่หลังจากรับซองผ้าป่ามาแล้ว ตนก็เกิดเอะใจขึ้น เนื่องจากไม่คุ้นชื่อวัด จึงตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีวัดดังกล่าวจริง อีกทั้งชื่อพระอาจารย์ระทม ขันติโก ประธานฝ่ายสงฆ์ที่จัดผ้าป่า ก็ไม่มีตัวตนจริงเช่นกัน แถมชื่อศรัญญ์ พรมสุรินทร์ นั้น พวกตนไปตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นชื่อของเด็กอายุ 8 ขวบเท่านั้น พวกตนจึงคิดว่าถูกหลอกแน่นอน

น.ส.สโรชา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ช่วงปลายเดือน มี.ค.ตนก็เลยพยายามติดต่อหา นายสมัย เพื่อแกล้งทวงถามเงินค่าที่ดินที่นายมัยอ้างว่า จะช่วยนำไปขายแล้วนำเงินมาให้ก็ได้รับคำตอบว่า ฝ่ายคู่กรณีมีเงินให้แค่ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น ต่อมาตนก็เลยทวงถามไปอีกครั้ง นายสมัย ก็บอกว่า จะเอาเงินมาให้ 4 ล้านบาท ในวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ศาลฎีกา แต่ถึงวันนัด นายสมัยก็ไม่ยอมมา อ้างว่าป่วย พวกตนทั้งสองคนจึงเดินทางมาแจ้งความไว้ที่สน.ชนะสงคราม หลังจากนั้นนายสมัย ก็พยายามติดต่อมาหา เพื่อทวงถามถึงซองผ่าป่าที่ให้พวกตนช่วยแจก ตนจึงนัดให้มาพบที่ศาลหลักเมืองในวันนี้ พร้อมทั้งแจ้งให้ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน นายสมัยให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าทำงานเป็นเสมียนทนายความอยู่ที่สำนักงานแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา และตนไม่ได้หลอกลวงผู้เสียหายแต่อย่างใด เพียงจะเข้าไปช่วยเหลือด้านคดี ส่วนชุดเสื้อครุย สูท เสื้อแจ็กเกต เป็นของทนายความเจ้านายของตน และนามบัตรเจ้านายก็ทำให้ ไม่ได้ทำขึ้นมาเอง ส่วนซองผ้าป่าพวกนี้ก็จะไปทำบุญจริงไม่ได้หลอกลวง

ด้าน พ.ต.ต.สมยศ กล่าวว่า ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้หลอกลวง แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานการทำผิดแน่ชัด จึงแจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น, ไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ การกระทำเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่ามีสิทธิ และปลอมและใช้เอกสารปลอม ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ตำรวจคุมตัวนายสมัย อุปราวัลย์ มาสอบปากคำ
นายสมัย อุปราวัลย์
น.ส.สโรชา ทองหล้าชี้ตัวนายสมัย ผู้ต้องหา
กำลังโหลดความคิดเห็น