โลแลน อัดฉีด 50 ล้านบาท ปรับโพซิชันนิ่งรอบ 20 ปี สลัดคราบสินค้าร้านเสริมสวย ปรับภาพลักษณ์ทันสมัยขยายฐานคนรุ่นใหม่ แก้เกี้ยวพิษเศรษฐกิจกระทบตลาดเปลี่ยนสีผมโตน้อย สาวไทยเปลี่ยนพฤติกรรมลดความถี่เข้าร้านเสริมสวย ซื้อสินค้ากลับมาทำที่บ้านเอง สิ้นปีแชร์พุ่งกว่า 17% รั้งอันดับ 2 ลั่น 3 ปี โค่นบัลลังก์ลอรีอัล
นายวิบูลย์ สมบูรณ์ศักดิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส.ซี.เสรีชัย บิวตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมโลแลน เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 7% หรือมีมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดเติบโต 9% หรือมีมูลค่า 2,300 ล้านบาท
เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อีกทั้งยังเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อผลิตภัณฑ์ทำที่บ้านแทนการเข้าร้านเสริมสวย และขณะเดียวกันยังหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินหรือใช้สินค้าราคาถูกลง จากเซกเมนต์พรีเมียม ราคาสินค้า 230-240 บาท มาใช้เซกเมนต์สแตนดาร์ด ราคา 100-200บาท
นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทยังเปิดตัวสินค้าใหม่ประมาณ 50 รายการ ลงสู่ตลาด โดยไม่มีแผนชะลอการเปิดตัวสินค้าแม้ว่าปีนี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยถดถอยก็ตาม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์ทำความดูแลและทำความสะอาดเส้นผม กลุ่มผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ดัด ยืด และกลุ่มจัดแต่งทรงผมซึ่งทั้ง 3 กลุ่มเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น ดังนั้นจึงต้องมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้ปรับตำแหน่งการตลาดผลิตภัณฑ์โลแลนในรอบ 20 ปี โดยปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย ใช้ง่าย เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี จากเดิมโลแลนภาพลักษณ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มร้านเสริมสวย มีฐานลูกค้าอายุตั้งแต่ 25- 30 ปี โดยบริษัทตั้งเป้าหมายฐานลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์เพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 70% และกลุ่มโปรเฟสชันนัลหรือร้านเสริมสวยจาก 40% เหลือเป็น 30%
ทั้งนี้ได้ทุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาใช้ 40 ล้านบาท โดยปีนี้มุ่งเน้นการทำอะโบฟเดอะไลน์ เป็นหลัก เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ล่าสุดได้นำ พิ้งกี้ - สาวิกา ไชยเดช ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมการตลาด ผ่านทางช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อยกระดับและส่งเสริมภาพลักษณ์ของโลแลนให้มากยิ่งขึ้น
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ได้วางเป้าหมายระยะ 3 ปี โลแลนจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแทนที่ลอรีอัล ซึ่งปัจจุบันมีส่วน 17% ส่วนโลแลน มีส่วนแบ่ง 14.7% และสิ้นปีมีส่วนแบ่ง 17.7% รั้งอันดับสอง ส่วนรายได้รวมปีนี้โต 27% หรือ 1,270 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 30% แบ่งเป็น กลุ่มเปลี่ยนสี ดัด ยืด 45% หรือ 339 ล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้าโตมากกว่า 27% กลุ่มดูแลและทำความสะอาด 45% และกลุ่มจัดแต่งทรงผม 10%
นายวิบูลย์ สมบูรณ์ศักดิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส.ซี.เสรีชัย บิวตี้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมโลแลน เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 7% หรือมีมูลค่ากว่า 2,400 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดเติบโต 9% หรือมีมูลค่า 2,300 ล้านบาท
เนื่องจากผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น อีกทั้งยังเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อผลิตภัณฑ์ทำที่บ้านแทนการเข้าร้านเสริมสวย และขณะเดียวกันยังหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินหรือใช้สินค้าราคาถูกลง จากเซกเมนต์พรีเมียม ราคาสินค้า 230-240 บาท มาใช้เซกเมนต์สแตนดาร์ด ราคา 100-200บาท
นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทยังเปิดตัวสินค้าใหม่ประมาณ 50 รายการ ลงสู่ตลาด โดยไม่มีแผนชะลอการเปิดตัวสินค้าแม้ว่าปีนี้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยถดถอยก็ตาม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์ทำความดูแลและทำความสะอาดเส้นผม กลุ่มผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม ดัด ยืด และกลุ่มจัดแต่งทรงผมซึ่งทั้ง 3 กลุ่มเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น ดังนั้นจึงต้องมีผลิตภัณฑ์ตอบสนองเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้ปรับตำแหน่งการตลาดผลิตภัณฑ์โลแลนในรอบ 20 ปี โดยปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย ใช้ง่าย เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี จากเดิมโลแลนภาพลักษณ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มร้านเสริมสวย มีฐานลูกค้าอายุตั้งแต่ 25- 30 ปี โดยบริษัทตั้งเป้าหมายฐานลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์เพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 70% และกลุ่มโปรเฟสชันนัลหรือร้านเสริมสวยจาก 40% เหลือเป็น 30%
ทั้งนี้ได้ทุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาใช้ 40 ล้านบาท โดยปีนี้มุ่งเน้นการทำอะโบฟเดอะไลน์ เป็นหลัก เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ล่าสุดได้นำ พิ้งกี้ - สาวิกา ไชยเดช ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมการตลาด ผ่านทางช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อยกระดับและส่งเสริมภาพลักษณ์ของโลแลนให้มากยิ่งขึ้น
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ได้วางเป้าหมายระยะ 3 ปี โลแลนจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมแทนที่ลอรีอัล ซึ่งปัจจุบันมีส่วน 17% ส่วนโลแลน มีส่วนแบ่ง 14.7% และสิ้นปีมีส่วนแบ่ง 17.7% รั้งอันดับสอง ส่วนรายได้รวมปีนี้โต 27% หรือ 1,270 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 30% แบ่งเป็น กลุ่มเปลี่ยนสี ดัด ยืด 45% หรือ 339 ล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้าโตมากกว่า 27% กลุ่มดูแลและทำความสะอาด 45% และกลุ่มจัดแต่งทรงผม 10%
