xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ท้า “ไข่แม้ว” เดิมพันตำแหน่ง อวดหลักฐานเท็จกลางสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์
วอร์รูม ปชป.เรียกร้อง “ทักษิณ-จักรภพ” หยุดใช้สื่อต่างชาติจาบจ้วงสถาบัน-ทำลายประเทศ ชูเวทีรัฐสภาดับวิกฤต พร้อมเปิดตู้ ป.ณ.รวบรวมความเห็น ด้าน “บุญยอด” ท้าส.ส.พท.ใช้ตำแหน่งเป็นประกันหากเอาหลักฐานเท็จโชว์กลางสภา

วันนี้ (21 เม.ย.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) ว่า พรรคได้ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองและแนวทางออกของวิกฤตการณ์ทางการเมือง โดยเบื้องต้นที่ประชุมห่วงใยกับเหตุการณ์ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้วางแนวทางที่จะสร้างความสมานฉันท์ โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อปฏิรูปการเมือง และหาทางออกไปพร้อมๆ กัน แต่พรรคมีความวิตกว่า 2 บุคคล คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.ที่ส่งสัญญาณถึงความไม่พร้อมที่จะยุติการดำเนินการสร้างความเสียหาย แก่ภาพลักษณ์ของประเทศชาติ และทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันต่างๆ ในประเทศ และยังคงให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ในทิศทางที่บ่งชี้ถึงความพร้อมที่จะดำเนินการสร้างความไม่สงบในประเทศต่อไป

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติหลายแขนง พูดในลักษณะถึงความรับรู้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อการปฏิวัติรัฐประหารในวันที่ 19 ก.ย.แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเรียกร้องหลายครั้งแล้วว่า หากจะหนีความผิดไปกี่ประเทศก็ตาม และหากจะปลุกระดมมวลชนด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ขอให้หยุดการกระทำที่จาบจ้วงพาดพิงสถาบันสูงสุดของชาติ โดยเฉพาะในลักษณะการจงใจใส่ร้ายเรื่องที่ไม่บังควร ในสภาวการณ์ที่ปัจจุบันหลายฝ่ายในสังคมอยากให้ประเทศชาติเดินหน้า โดยหันหน้าเข้าหากัน

นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางพรรคได้รับเชิญจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ โดยตนจะไปให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกแขนงในเวลา 19.30 น.ที่อาคารมณียา ถึงเหตุผลข้อเท็จจริงต่อกรณีคำกล่าวหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อสถาบันสูงสุดของประเทศ และส่วนกรณีของนายจักรภพ ที่ได้มีการพูดชัดว่า มีความพร้อมในการต่อสู้ และมีการปฏิบัติการมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยอาศัยฐานปฏิบัติการในต่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนทางการเมือง อย่างที่พรรคเคยบอกไว้ว่าเป็นการขับเคลื่อนลงสู่ใต้ดินโดยการบิดเบือนความจริง และกล่าวหา กระทำการหลายประการที่จะนำไปสู่ชนวนความขัดแย้ง หรือนำไปสู่ความรุนแรงในรูปแบบใหม่ที่อาจจะส่งผลไปสู่ความวิตกกังวลในวงกว้าง และพรรคมองว่าในเรื่องดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคที่สุด ในการสร้างความสงบและความสมานฉันท์ หลังจากที่ประเทศชาติได้เผชิญกับวิกฤตที่ผ่านมา

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการประเมินของวอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า ปัญหาของวิกฤตทางการเมือง น่าจะมาจบลงที่รัฐสภา และหวังว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 22-23 เม.ย.จะมีทางออกเพื่อให้รัฐบาลนำไปปฏิบัติ เพื่อนำประเทศออกจากวิกฤต และขอเชิญชวนประชาชนให้ความสำคัญ ต่อการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา และติดตามต่อสถานการณ์ดังกล่าว และการประชุมครั้งนี้ ได้ประเมินถึงสิ่งสำคัญถึง 2 เรื่อง คือ 1.สมาชิกรัฐสภาต้องมีการถกกัน ให้มีความชัดเจนกับสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และขอเรียกร้องไปยังส.ส.และส.ว.ทุกคน ให้นำเหตุการณ์หรือข้อมูลข้อเท็จจริงมานำเสนอในรัฐสภา และ 2.สมาชิกที่เข้าสู่ที่ประชุมทุกคน ต้องมีทางออกของวิกฤติการเมืองของประเทศ และคิดว่า วิกฤตเหล่านี้รัฐบาลน่าจะรับฟัง เพื่อนำไปเป็นแนวทางแก้ไข ที่สำคัญ ขอเรียกร้องไปยังพรรคฝ่ายค้าน ว่า ควรเอาเหตุผลและข้อเท็จจริงมาคุยกัน พร้อมทั้งเสนอทางออกให้กับรัฐบาลนำไปแก้ปัญหา ไม่ควรเอาเวทีรัฐสภาเป็นที่ทะเลาะ ตีรวน หรือสร้างความขัดแย้งให้มากยิ่งขึ้น

ด้าน นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม.เลขานุการวอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมวอร์รูมมีความเห็นพ้องต้องกันกับความไม่สงบที่ผ่านมา ดังนั้นขอให้ประชาชนทุกคน ในประเทศร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไข วันนี้หลายส่วนของพรรคการเมือง ได้มีการประชุมร่วมกัน แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งสถาบันการศึกษา องค์กรอิสระ หรือองค์กรอื่นใดก็ตาม ที่จะส่งแนวทางแก้ไขให้บ้านเมืองกลับมาสู่ภาวะปกติ และสามารถทำให้การเมืองมีความมั่นคงถาวรต่อไปอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นจดหมาย หรือโทรศัพท์มาได้ที่เบอร์ 02-270-0036 หรือส่งโทรสารมาได้ที่เบอร์ 02-279-6086 หรือ www.democrat.or.th หรือตู้ปณ.123 ปณฝ.ดุสิต กรุงเทพฯ 10300 ข้อเสนอทั้งหมดทางพรรค จะนำมารวบรวมเพื่อนำเสนอเป็นแนวทางแก้ไขต่อไป

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะนำหลักฐานมาใช้ในสภาต้องผ่านการพิจารณาของประธานสภาก่อน จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านส่งหลักฐานหรือวิดีโอ ให้ประธานสภาได้ตรวจสอบก่อน เพราะอาจจะมีภาพที่ไม่เหมาะสม หรือมีการใช้หลักฐานเท็จ นอกจากนี้ พรรคยังเป็นห่วงว่าฝ่ายค้านอาจจะมีการตัดต่อภาพ และนำเสนอเฉพาะภาพบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น หากสมาชิกรัฐสภาคนใดจะนำหลักฐานมาใช้ในการอภิปราย ก็ควรจะรับผิดชอบด้วยการใช้ตำแหน่งของตนเองเป็นประกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น