“ร.ท.อภิชัย” ผอ.ฝ่ายการบิน โร่ร้อง ป.ป.ช.ตั้งแง่สอบการทำงานของคณะกรรมการสรรหา ระบุ “ศุภรัตน์” หมกเม็ดแอบแต่งตั้งรองกรรมการฝ่ายปฏิบัติ ไม่ถูกตามขั้นตอน ทั้งยังปลอมแปลงเอกสาร ไม่แจ้งผลที่ประชุม เผย ยังถูกกลั่นแกล้งจัดหาที่พักพนักงานเกินกว่ากำหนด ซัดถ้าผิดจริงกรรมการชุดก่อนที่เซ็นสัญญาต้องผิดด้วย
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรืออากาศโท อภิชัย แสงศศิ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการบิน (DP) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่อันไม่ชอบด้วยกฏหมาย พ.ศ.2502 มาตรา 11 “ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษจำคุกตังแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
เรืออากาศโท อภิชัย กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้บริหารในบริษัท การบินไทย มีความไม่ชอบพากล เพราะการแต่งตั้งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติ (DO) ตามระเบียบของการบินไทย คณะกรรมการสรรหา กำหนดค่าตอบแทนและพัฒนาบุคลากร ตำแหน่งดังกล่าวต้องมีการเสนอชื่อจาก ผู้อำนวยการใหญ่ (DD) หรือสรรหา ซึ่งในการประชุมครั้งที่ 8/2551 ได้มีการสรรหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ตนดำรงตำแหน่ง เป็น (DO) และเรืออากาศเอก มนตรี ดำรงตำแหน่ง (DB) แต่ในการประชุมครั้งที่ 9/2551 คณะกรรมการสรรหา ซึ่งมี นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการสรรหาและประกอบด้วยกรรมการอีก 7 คน ได้มีการนำชื่อเรืออากาศโท พอพงษ์ สรรพกิจ ซึ่งไม่ได้รับการเสนอจากผู้อำนวยการใหญ่หรือสรรหา แต่งตั้งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติ (DO) โดยมีการประชุมลับและไม่มีการแจ้งให้ผู้อำนวยการใหญ่ทราบ อีกทั้งไม่ผ่านกระบวนการสรรหาเพราะมีการปลอมแปลงเอกสารแก้ไขมติคณะกรรมการบริษัทในการลงมติเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้อย่างไร ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสรรหาชุดนี้
ทั้งนี้ เรืออากาศโท อภิชัย ยังกล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่ตนเป็นผู้จัดหาเช่าที่พักลูกเรือ ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนปฏิบัติการ (DO-v) แต่เนื่องบริษัท การบินไทย ได้ทำสัญญากับทางโรงแรมมาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ตนจึงเซ็นสัญญาเช่าต่อเมื่อปี2551 ที่โรงแรม PIPA สถานีโรม และสถานีซิดนีย์ นั้น ทั้งหมดจำนวน 44 ห้องต่อวัน ราคาคืนละ 63.50 ยูโร แต่เหตุที่ต้องเพิ่มเป็น 45 ห้อง เพื่อรองรับพนักงานส่วนที่เหลือ หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าเกิดความเสียหายแก่บริษัท การบินไทย ก็ต้องลงโทษคณะกรรมการทุกชุดที่ผ่านมา จึงมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติมากกว่าการตรวจสอบอย่างจริงจัง
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรืออากาศโท อภิชัย แสงศศิ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการบิน (DP) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่อันไม่ชอบด้วยกฏหมาย พ.ศ.2502 มาตรา 11 “ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตต้องระวางโทษจำคุกตังแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
เรืออากาศโท อภิชัย กล่าวว่า การแต่งตั้งผู้บริหารในบริษัท การบินไทย มีความไม่ชอบพากล เพราะการแต่งตั้งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติ (DO) ตามระเบียบของการบินไทย คณะกรรมการสรรหา กำหนดค่าตอบแทนและพัฒนาบุคลากร ตำแหน่งดังกล่าวต้องมีการเสนอชื่อจาก ผู้อำนวยการใหญ่ (DD) หรือสรรหา ซึ่งในการประชุมครั้งที่ 8/2551 ได้มีการสรรหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ตนดำรงตำแหน่ง เป็น (DO) และเรืออากาศเอก มนตรี ดำรงตำแหน่ง (DB) แต่ในการประชุมครั้งที่ 9/2551 คณะกรรมการสรรหา ซึ่งมี นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการสรรหาและประกอบด้วยกรรมการอีก 7 คน ได้มีการนำชื่อเรืออากาศโท พอพงษ์ สรรพกิจ ซึ่งไม่ได้รับการเสนอจากผู้อำนวยการใหญ่หรือสรรหา แต่งตั้งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติ (DO) โดยมีการประชุมลับและไม่มีการแจ้งให้ผู้อำนวยการใหญ่ทราบ อีกทั้งไม่ผ่านกระบวนการสรรหาเพราะมีการปลอมแปลงเอกสารแก้ไขมติคณะกรรมการบริษัทในการลงมติเป็นที่เรียบร้อยแล้วได้อย่างไร ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสรรหาชุดนี้
ทั้งนี้ เรืออากาศโท อภิชัย ยังกล่าวว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่ตนเป็นผู้จัดหาเช่าที่พักลูกเรือ ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนปฏิบัติการ (DO-v) แต่เนื่องบริษัท การบินไทย ได้ทำสัญญากับทางโรงแรมมาตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน ตนจึงเซ็นสัญญาเช่าต่อเมื่อปี2551 ที่โรงแรม PIPA สถานีโรม และสถานีซิดนีย์ นั้น ทั้งหมดจำนวน 44 ห้องต่อวัน ราคาคืนละ 63.50 ยูโร แต่เหตุที่ต้องเพิ่มเป็น 45 ห้อง เพื่อรองรับพนักงานส่วนที่เหลือ หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเห็นว่าเกิดความเสียหายแก่บริษัท การบินไทย ก็ต้องลงโทษคณะกรรมการทุกชุดที่ผ่านมา จึงมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติมากกว่าการตรวจสอบอย่างจริงจัง
