“สมชาย หอมลออ” ยื่นหนังสือ กมธ.สามัญตรวจประวัติว่าที่กรรมการสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มข้น ชี้หลายคนมีปัญหา ไม่มีผลงานด้านสิทธิมนุษยชน มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมจี้ กมธ.เปิดเผยประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด ขณะที่ “ธีระจิตต์” เผยเปิดรับข้อมูลรอบด้าน กำหนดแสดงวิสัยทัศน์ 29 เม.ย.นี้
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายสมชาย หอมลออ ตัวแทนองค์กรภาคประชาชนด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพ พร้อมคณะ ยื่นหนังสือต่อนายธีระจิตต์ สถิโรตมวงศ์ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อขอให้ตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่ออย่างเข้มข้น
นายสมชายกล่าวว่า การเสนอชื่อผู้สมควรเป็น กสม.มายังวุฒิสภา ปรากฏว่าคณะกรรมการสรรหาไม่ครอบคลุมเพียงพอ นอกจากนี้ ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน บางคนไม่มีผลงานด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพเป็นที่ประจักษ์ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 256 บัญญัติ อีกทั้งยังไม่หลากหลาย บางคนมีส่วนได้ส่วนเสียในการปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จึงขอให้คณะกรรมาธิการเปิดเผยประวัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คนต่อสาธารณะ และให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ โดยพิจารณายึดตามเกณฑ์หลักการสิทธิมนุษยชนสากล ความเป็นกลางทางการเมือง ภูมิหลังที่ไม่เคยมีความคิดพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภา
ขณะที่ นายธีระจิตต์กล่าวว่า กรรมาธิการจะเปิดรับข้อมูลจากทุกภาคส่วนเกี่ยวกับผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน จนถึงวันที่ 27 เมษายน และกำหนดให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน แสดงวิสัยทัศน์ ในวันที่ 29 เมษายน เวลา 16.00 น.ที่อาคารรัฐสภา 2 ต่อไป
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ แจ้งว่า การประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรกเมื่อเย็นวันที่ 20 เมษายน กรรมาธิการได้หารือถึงประวัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน ซึ่งกรรมาธิการมองว่า ไม่ค่อยมีตัวแทนผู้ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน และหลายคนยังเป็นอดีตข้าราชการ รวมถึงตำรวจ ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนชุดปัจจุบันได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับตำรวจกว่า 40% ของเรื่องทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ได้รับการเสนอชื่อบางคนยังถูกร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการตั้งเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่บัญญัติว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนต้องมีประสบการณ์ด้านสิทธิเสรีภาพสิทธิมนุษยชนเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งอาจทำให้การพิจารณาให้ความเห็นชอบว่าที่ กสม.ทั้ง 7 คน วุฒิสภาอาจลงมติเห็นชอบไม่ครบทั้ง 7 คนตามที่มีการเสนอชื่อมา
