xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ถกด่วนฝ่ายความมั่นคง สั่งจับตาเครือข่าย “นช.แม้ว” เผ่นออกนอกประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“นายกฯ อภิสิทธิ์” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกด่วนทำเนียบ “ปณิธาน” เผยที่ประชุมสั่งจับตาบุคคลเคลื่อนไหวออกนอกประเทศผิดปกติ เชื่อเอี่ยว “นช.แม้ว” มอบ “พัชรวาท” แถลงรวมการเฉพาะกิจ แจงสถานการณ์ 20 เม.ย.นี้ พร้อมประเมินความเคลื่อนไหว 24 ชั่วโมง ย้ำยังต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ อ้างมีจุดอันตรายหลายจุด

วันนี้ (19 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายอภิสิทธิ์ได้เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง มีผู้บัญชาการ 4 เหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลา 11.40 น. โดยกลับบ้านพักย่านสุขุมวิท ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์รักษาความปลดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) และหน่วยคอมมานโดทหารอากาศสนธิกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการเพิ่มจำนวนรถรักษาความปลอดภัยติดตามขบวนมากถึง 6 คัน หลังจากโดนกลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถถึง 2 ครั้ง

ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังจากนี้คณะกรรมการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) จะมาประชุมกันที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรายงานสถานการณ์ให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะๆ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ประชุมที่ทำเนียบ โดยประเด็นแรกเป็นการรายงานสถานการณ์ทั่วไป ทางด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยตลอดจนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับแกนนำพันธมิตรฯ

นายปณิธานระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณผู้นำเหล่าทัพทุกท่านที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันในการปฏิบัติหน้าที่และกังวลเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกำชับให้ดูแลนายทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่และพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนให้ทั่วถึง นอกจากนี้ยังกำชับให้มีการชี้แจงทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหา หรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และขอร้องให้สื่อมวลชน ช่วยแจ้งเข้ามายังทำเนียบรัฐบาล หากมีกรณีใดที่ยังเป็นข้อสงสัย หรือไม่ชัดเจนในการปฏิบัติงานของทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ สามารถแจ้งมาได้ โดยจะมีการดูแล นอกจากนั้นยังมีการพิจารณาที่จะกำหนดให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งระหว่างนี้อยู่ขั้นตอนของการประเมิน หากพร้อม สถานการณ์คลี่คลาย ทั้งหมดจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังมีจุดไหนที่ยังมีสถานการณ์ล่อแหลม นายปณิธานกล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่ายังมีความพยายามเคลื่อนไหวบ้างในหลายพื้นที่ที่จะระดมคนเข้ามาอย่างเช่น ท้องสนามหลวง รวมทั้งต่างจังหวัดบางแห่งตรงนี้เป็นความกังวลของบางหน่วย แต่ส่วนใหญ่ก็คลี่คลายไปเกือบหมดแล้ว และการเดินทางกลับเข้า กทม.ของประชาชนวันนี้ก็เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนการก่อการชุมนุมใหญ่ๆ ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดถือว่าคลี่คลายเกือบหมด

เมื่อถามว่าที่ทาง ผบ.ทบ.ห่วงว่าจะมีแหล่งสาธารณูปโภคถูกเป็นเป้าหมายในการโจมตี นายปณิธานกล่าวว่า ขณะนี้ยังมีกองกำลังทหาร ตำรวจ พลเรือนในระดับหนึ่งที่คงไว้ ตามจุดต่างๆ แต่ตอนนี้ถือได้ว่ามีการลดกำลังลงตามลำดับ เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้นคงไว้เฉพาะจุดสำคัญๆ เมื่อถามว่ามีการพูดถึงการเคลื่อนไหวใต้ดินหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า การเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ขณะนี้ทาง กอฉ.กำลังประเมินและติดตามเราได้รับเบาะแสจากหลายแห่ง ความจริงแล้วการเคลื่อนไหวมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วนของต่างประเทศมีการพูดคุยกันพอสมควร ซึ่งมีความพยายามในการให้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป และขณะนี้ได้มีการกำหนดให้มีการชี้แจงเรื่องนี้ให้เป็นระบบโดยเฉพาะในต่างประเทศ

เมื่อถามว่า มีความพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้เมื่อไหร่ นายปณิธาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการวางกรอบซึ่งนายกฯ ได้ให้แนวทางไว้ว่า หากทุกอย่างเรียบร้อยการยกเลิกจะทำได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับประเด็นเรื่องความปลอดภัยของประชาชน ผู้นำ ความเคลื่อนไหวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแนวโน้มการชุมนุม เข้าใจว่าขณะนี้ตัวแปร ปัจจัยต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงไปค่อนข้างมาก แนวโน้มค่อนข้างเป็นบวก แต่ตอนนี้ต้องขอเวลาประเมินกันอีกระยะหนึ่ง เพราะต้องยอมรับยังมีหลายปัจจัยที่ฝ่ายความมั่นคงยังเป็นกังวลอยู่ ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงมีการประเมินกันทุกวัน 24 ชั่วโมง โดยจะประชุมกันเป็นระยะที่ทำเนียบรัฐบาล ถ้าสถานการณ์คลี่คลายจะดูแนวโน้มการยกเลิก ขณะนี้ยังรอรับรายงานอยู่

เมื่อถามว่า ข่าวการลอบสังหารผู้นำหรือบุคคลสำคัญยังมีอยู่หรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ตอนนี้แนวโน้มดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถไว้ใจได้ ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ไว้วางใจการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ยังเข้มงวดอยู่ ต้องขออภัยพี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนด้วย ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์กำลังคลี่คลายไม่อยากให้สถานการณ์ย้อนกลับไปเหมือนเดิม ฉะนั้น การวางระบบรักษาความปลอดภัยอาจจะเข้มข้นนิดหน่อย เพื่อให้สถานการณ์คืนสู่ปกติโดยเร็ว หากเราสามารถรักษาความปลอดภัยของประชาชนและผู้นำได้ในระดับนี้เชื่อว่าไม่นานจะสามารถคลี่คลายได้ ช่วงนี้อาจจะกระทบต่อการเดินทาง และวาระงานของนายกฯ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่า ที่บอกว่ามีการเคลื่อนไหวในต่างประเทศพอจะบอกได้หรือไม่ว่าเป็นกลุ่มไหน ลักษณะใด นายปณิธานกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการให้ข่าวสารกับสื่อ และอาจจะมีการเดินทางของกลุ่มบุคคลบ้างที่เคลื่อนไหวเข้าออกจากประเทศไทยไปยังต่างประเทศ ตรงนี้เป็นอีก 1 กลุ่มที่มีการตรวจตราและเฝ้าระวังการเดินทางของกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ ฝ่ายความมั่นคงกำลังเฝ้าระวังการเดินทางของคนเหล่านี้ และบางท่านเข้าใจว่าเดินทางออกไปแล้ว

“ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะแถลงในเรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ ในวันพรุ่งนี้ (20 เม.ย.) เป็นเรื่องความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีต่างๆ ของหลายกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ก่อความไม่สงบภายใน 2-3 สัปดาห์ก่อนนี้ เข้าใจว่าประมาณ บ่าย 3-4 โมงเย็น ผบ.ตร.จะแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ รวมถึงการทำงานร่วมกับสื่อในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คงจะมีการชี้แจงในขั้นตอน กระบวนการ กฎเกณฑ์ โดยเฉพาะสื่อต่างๆ ที่คิดว่ามีผลกระทบต่อการทำงาน จะได้มีการพูดคุยชี้แจงกัน” นายปณิธาน กล่าว

เมื่อถามว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ได้เดินทางออกจากต่างประเทศหรือยัง นายปณิธานกล่าวว่า เฉพาะบุคคลเวลานี้ฝ่ายความมั่นคงขอให้มีการตรวจสอบกันก่อนคิดว่าคงจะใช้เวลาสักพัก เพราะความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ยังไม่ชัดเจน แต่การเดินทางออกนอกประเทศของกลุ่มคนเหล่านี้เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งรายละเอียดอยู่ที่ ผบ.ทบ. และผบ.ตร. ตัวเลขไม่น่าถึง 10 คน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่า ทาง กอฉ.ขานรับข้อเสนอของพรรคร่วมที่เสนอให้มีการเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มากน้อยแค่ไหน นายปณิธานกล่าวว่า ขณะนี้มีการพิจารณาข้อเสนอหลายข้อทั้งด้านความปลอดภัย การเมือง ซึ่งในส่วนของพรรคการเมือง นายกฯ รอให้มีการเปิดสภาเพื่อชี้แจงในสภาอีกครั้ง เมื่อถามว่าในที่ประชุมความมั่นคงได้พูดถึงคดีการลอบทำร้ายนายสนธิ ลิ้มทองกุล หรือไม่ว่ามีความเกี่ยวโยงกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ไม่มี แต่เป็นการพูดถึงความเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของทุกคนโดยเฉพาะคนที่เป็นเป้า โดยนายกฯ ได้ย้ำว่า หากใครรู้สึกไม่ปลอดภัยขอให้แจ้งเบาะแสเข้ามาที่ทำเนียบ โดยรัฐบาลจะดูแลทุกฝ่าย ขณะนี้เข้าใจว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต่างๆก็เริ่มร้องขอมาให้รัฐบาลช่วยดูแลความเรียบร้อยโดยทั่วไป ซึ่งเราก็ทำอยู่ รายละเอียดอยู่ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ

เมื่อถามว่ามีการพูดถึง 4 กลุ่มอำนาจเกสตาโปหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ไม่มีในรายละเอียด เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ เมื่อถามว่ากำลังทหารที่บอกว่าลดลงนั้นกี่เปอร์เซ็นต์ นายปณิธานกล่าวว่า ตัวเลขไม่เปิดเผย แต่ลดลงไปพอสมควร เป็นการทยอยลดกำลัง กอฉ.เป็นผู้พิจารณา หลังเปิดทำการคงจะมีการลดกำลังลงอีก

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหลังเหตุการณ์ยังใช้เบอร์เดิม ใครโทร.มาก็รับ นายปณิธานกล่าวว่า วันก่อนมีคนโทร.ไปปลุกนายกฯ กลางดึก ซึ่งท่านก็ลุกขึ้นมารับฟังเหตุผล คือตอนนี้คนไม่สบายใจพยายามติดต่อผู้บริหารโดยตรง เพื่อที่จะร้องเรียน เล่าให้ฟัง ซึ่งนายกฯ ยินดี ยืนยันไม่เปลี่ยนการทำงานในแง่ที่ใกล้ชิดกับประชาชน แม้ว่ามาตรการรักษาความมั่นคงอาจจะเข้มข้นขึ้น นายกฯ ยังยินดีที่จะรับข้อมูลทาโทรศัพท์ และสื่ออินเทอร์เน็ตโดยตรง เพื่อให้ประชาชนสบายใจ ความจริงนั้นสามารถร้องเรียนได้ที่รัฐมนตรีทุกคน รวมทั้งที่ กอฉ. หากร้องเรียนมาเราจะสามารถส่งกองกำลังเคลื่อนที่เร็วเข้าไปดูแล ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกโดยเฉพาะชุมชนต่างๆ ที่มีปัญหา
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา


 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ



กำลังโหลดความคิดเห็น