xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ติง อสส.คนรู้ทั้งโลกรู้แหล่งกบดาน “นช.แม้ว” กลับบอกไม่รู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“เทพไท” ยันสถานทูตนิการากัวปฏิเสธข่าวออกพาสปอร์ตให้ “นช.แม้ว” คาดไปขุดทองที่แอฟริกา เย้ยระวังโดนหลอกเหมือนโกโบรินแห่งถ้ำลิเจีย เตือนประธานสภา เตรียมรับมือ “ส.ส.ไข่แม้ว” อารมณ์ค้างป่วนการประชุมร่วมสภา พร้อมวอนสมาคมท่องเที่ยวเข้าใจเหตุคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้หากยกเลิกจนเกิดเหตุวุ่นวายจนต้องใช้ พ.ร.ก.อีกรอบจะเสียหายหลายเท่า

วันนี้ (17 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าหลายประเทศออกหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น ประเทศนิการากัว มอนเตรเนโก กัมพูชา บาฮามาส เป็นต้น จากการที่ตนได้ติดตามหาข้อมูลในเชิงลึกได้ทราบข่าวว่า ประเทศดังกล่าวนี้มีการออกพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง แต่กรณีของประเทศนิการากัวนั้น ปรากฏว่าสถานทูตไทยประจำเม็กซิโก ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสถานเอกอัคราชทูตนิการากัวประจำแม็กซิโก ถึงกรณีข่าวที่ระบุว่ามีการให้สัญชาติและออกพาสปอร์ตพิเศษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งได้รับหนังสือยืนยันตอบกลับมาว่าข่าวดังกล่าวไม่มีมูล ขณะเดียวกัน ทางนิการากัวได้มีการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ได้มอบพาสปอร์ตให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง ดังนั้น ตนอยากขอเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจงออกมาว่ากรณีดังกล่าวว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าประเทศกัมพูชาออกพาสปอร์ตพิเศษให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น อยากเรียกร้องให้สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำสูงสุดกัมพูชาออกมาชี้แจงและทำความชัดเจนกรณีดังกล่าวต่อรัฐบาลไทยด้วยเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา

“ขณะนี้ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หลบไปกบดานที่ประเทศแอฟริกา ซึ่งคงไปขุดทองในเหมืองทองหลายแสนล้านที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยบอกไว้ แต่ผมก็อยากฝากเตือนไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่อยากให้โดนคนแอฟริกาหลอกเหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยโดนนายเชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย หลอกไปขุดทองที่ถ้ำลิเจีย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องกลับมากบดานที่ประเทศดูไบแน่นอน เพราะเป็นประเทศที่มีความเจริญและ พ.ต.ท.ทักษิณ คุ้นเคยมากกว่า ดังนั้น อยากเรียกร้องไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานอัยการสูงสุดที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่ทราบที่พักที่ชัดเจนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำให้ผมแปลกใจว่ากระทั่งคนทั้งโลกรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน แต่สำนักงานอัยการสูงสุดกลับบอกว่าไม่รู้” นายเทพไท กล่าว

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ในการประชุมร่วมสองสภาฯ ในวันที่ 22-23 เม.ย.นี้ ตนอยากฝากเตือนไปยัง ส.ส.บางคนที่อาจจะยังคงมีอารมณ์ค้างจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง มาระบายในที่ประชุมสภาฯ เพราะจะทำให้บรรยากาศในการประชุมเสียไป ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยระบุว่า รัฐบาลเลือกปฏิบัติ 2 มาตรฐานกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ตนขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าต่อกลุ่มใด เพราะถือว่าทุกคนเป็นคนไทยไม่เหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยบอกเสมอว่าจะพัฒนาเฉพาะในพื้นที่ที่เลือกพรรคไทยรักไทยก่อน ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ได้มีการประกาศจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้วว่า ได้มีการจัดเตรียมงบประมาณเพื่อช่วยเหลือไว้แล้ว โดยการช่วยเหลือผู้เสียหายในวันที่ 13 เม.ย. จะเท่าเทียมกับผู้เสียหายในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.2551

“ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากทางฝ่ายเอกชน และองค์กรธุรกิจต่างๆ เพราะเห็นว่าจะทำให้กระทบกับการท่องเที่ยวนั้น ผมอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นที่ต้องใช้ ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะหากยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายซ้ำจนต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุนเฉิน กันใหม่ เชื่อว่าจะยิ่งสร้างความกระทบกระเทือนและความเสียหายให้แก่การท่องเที่ยวมากกว่า” นายเทพไท กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น