“สุริยะใส” เชื่อ “นช.แม้ว” เคลื่อนไหวในต่างประเทศลำบาก หลังถูกถอนพาสปอร์ต แถมเจอสัญญาณไม่ปลื้มจากรัฐบาลสหรัฐฯ และสื่อมวลชนโลกที่รู้ทันพฤติกรรมมากขึ้น ฟันธง “ทักษิณ” ทุ่มสุดตัวเปิดศึกภายในประเทศให้รุนแรงขึ้น พร้อมค้านข้อเสนอ “เสน่ห์” แนะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ชี้มีเจตนาดี แต่ให้ยาผิดโรค
วันนี้ (16 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพื้นที่การเคลื่อนไหวในทางสากลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะทำได้ยากขึ้น เพราะนอกจากถูกเพิกถอนพาสปอร์ตบุคคลทั่วไปแล้ว สัญญาณไม่วางใจจากประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงในนามรัฐบาลสหรัฐว่าการก่อจลาจลของ นปช.เป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชัดเจนต่อวิกฤตแบบเรื้อรังของการเมืองไทยที่ต่อเนื่องมา 3-4 ปี นอกจาก นี้สื่อมวลชนสากลหลายแขนงก็ตั้งคำถามในลักษณะรู้เท่าทันพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ มากขึ้น จนประเมินว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชนะเหนือ พ.ต.ท.ทักษิณ ในสงครามสื่อ
นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า นอกจากนี้แม้ประเทศนิการากัวจะมอบพาสปอร์ตในฐานะทูตพิเศษให้ก็ตาม แต่ก็คงเคลื่อนไหวได้ไม่ง่ายเหมือนเดิม เพราะสหรัฐฯ ส่งสัญญาณแบบนี้เป็นเรื่องยากที่สถานภาพพิเศษแบบนี้จะได้รับการยอมรับในเวทีโลก เมื่อพื้นที่เคลื่อนไหวในเวทีโลกมีข้อจำกัดมากขึ้น เป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจต้องหันมาทุ่มสุดตัวเพื่อการเคลื่อนไหวภายในประเทศทำให้สถานการณ์อาจรุนแรงขึ้น การเคลื่อนไหวอาจมีทั้งนอกกรอบกฎหมาย โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวใต้ดิน หรือปฏิบัติการก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องปรับวิธีตั้งรับที่มีเอกภาพและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านมา และแผนปฏิบัติการมวลชนเชิงรุกจะต้องมีประสิทธิภาพมากกว่านี้
ส่วนข้อเสนอของนายเสน่ห์ จามริก ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น โดยส่วนตัวคิดว่าคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลย เพราะถ้าเอาคนนอกมาเป็นนายกฯ ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่ถ้ายึดกรอบรัฐธรรมนูญคือให้นายกฯ มาจาก ส.ส.ก็ต้องถามว่าใครถึงจะได้รับการยอมรับ ทั้งนี้ ประการสำคัญวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องที่คนบางกลุ่มต่อต้านกระบวนการยุติธรรม และมีบางกลุ่มแฝงตัวฉวยโอกาสเคลื่อนไหวแทรกแซงสถานการณ์โดยหวังเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง จนมีการพาดพิงจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“แม้ผมจะเชื่อว่าอาจารย์เสน่ห์จะตั้งใจดีก็ตาม แต่ข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ เป็นยาที่ไม่ถูกกับอาการป่วยของโรค ทางเดียวที่จะคลี่คลายสถานการณ์ได้คือรัฐบาลต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ทำให้กระบวนการยุติธรรมน่าเชื่อถือและอย่าให้อคติที่มีต่ออำนาจตุลาการกลายเป็นความเชื่อจนยากที่จะเยียวยา เพราะมีกระบวนการบิดเบือนคำพิพากษาของศาลและผู้มีอำนาจปล่อยปะละเลยมานานเกินไป ฉะนั้น รัฐบาลชุดนี้จะทำงานล่าช้าแบบที่ผ่านๆ มา ไม่ได้อย่างเด็ดขาด” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว