xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” พร้อมใช้ช่อง 11 สู้เกมใต้ดิน “แม้ว” - เตรียมตีตก กม.นิรโทษฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สาทิตย์” พร้อมรับมือเกมใต้ดิน “โจรแดงแม้ว” ปรับช่อง 11 ระลอก 2 เน้นแพร่ข้อมูลเปิดโปงคนป่วนชาติ เผยเหตุคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อประเมินสถานการณ์ และดำเนินการทางกฎหมายต่อแกนนำ นปช. รวมถึงการล่าตัว “จตุพร” เข้าคุก เล็งเขี่ยทิ้งกฎหมายปรองดอง เหตุนิรโทษฯ ล่วงหน้าเปิดช่องจลาจลทำลายชาติ

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์รายการ “ยามเช้าริมเจ้าพระยา” ทางเอเอสทีวี เมื่อเช้าวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ถึงความเคลื่อนของเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเดินเกมลงใต้ดินหลังจากนี้ โดยเฉพาะวิทยุชุมชนบางแห่งยังคงพยายามบิดเบือนว่ามีคนตายจากการสลายการชุมนุมของทหาร แม้ว่า พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และแพทย์อีก 2 คนจะออกมาแถลงแล้ว ก็ยังกล่าวหาว่า หมอถูกบังคับให้มาพูด และจะมีการนำประเด็นนี้ไปเรียกร้องต่อไป

นายสาทิตย์กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำ คือ เผยแพร่ข้อมูลต่อไป และต้องทำอีกมาก เพราะผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ไม่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร อยู่ในที่ชุมนุมก็มีการปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริงทางโลกภายนอกไม่ได้รับรู้ด้วย ดังนั้นสถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐเองและสื่อต่างๆ คงต้องช่วยกันเผยแพร่ข้อเท็จจริงต่อไป เช่น ที่มาของการชุมนุมเป็นอย่างไร คนที่อยู่เบื้องหลังอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ถูกออกหมายจับไปแล้ว และวานนี้ก็มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คงต้องทำให้เห็นว่าที่ผ่านมาเขามีส่วนในการปลุกปั่นทำให้เกิดความรุนแรง และความเสียหายอย่างไรต่อประเทศ

“ตรงนี้ก็จะโยงกับข้อเท็จจริงที่มีคนออกมาปลุกระดมขณะนี้ การเอาข้อเท็จมาเผยแพร่ให้กับสังคมได้รับทราบ จะต้องดำเนินการตอบโต้ในทางข่าวสารอย่างไร เมื่อวานแถลงไปแล้ว 2 รอบ ก็คงต้องทำต่อไป แม้กระทั่งในเว็บไซต์ก็ตาม ทางสถานีวิทยุก็จะต้องมีการดำเนินการต่อไป ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ได้ดำเนินการกับหลายสถานี แต่ว่าสถานีวิทยุชุมชนนั้นเปิดง่าย”

นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้ประเมินการเดินเกมใต้ดินของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณไว้แล้ว และจะต้องมีการต่อสู้กันในเชิงข้อมูลข่าวสารต่อไป บทบาทของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ของรัฐเอง ก็จะต้องดำเนินการทางข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับพรรคพวกได้ทำความเสียหายอย่างไร เราจะแยกประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วยความบริสุทธิ์ใจไว้ส่วนหนึ่ง แยกผู้ที่ใช้ข้อมูลเท็จเพื่อปลุกปั่นไว้ส่วนหนึ่ง และเราก็จะให้ข้อเท็จจริงในเชิงข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม

ส่วนการคงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้นั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า เพื่อภารกิจ 2 อย่าง คือ 1.จัดเก็บเศษซากสิ่งของทั้งหลายรวมทั้งประเมินสถานการณ์ว่า ยังมีผู้ชุมนุมที่ดำเนินการใดๆ ในลักษณะการก่อจลาจลหรือไม่ ถ้าไม่มีก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่นะไปสู่การที่ต้องยกเลิก 2.ยังคง พ.ร.ก.ไว้ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป อย่างเช่น กรณีการตามตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ ต้องดูว่าอำนาจตาม พ.ร.ก.นั้นสามารถที่จะดำเนินการได้ เพราะนายจตุพรนั้นเป็น ส.ส.ด้วย แต่เป็นแกนนำที่ไปปลุกระดมให้เกิดการจลาจลและความวุ่นวายในเมือง พ.ร.ก.ที่จะไปจัดการทางกฎหมายจึงจำเป็นต้องคงอยู่

ส่วนความพยายามที่จะผสานเกมใต้ดินกับเกมในสภาของพรรคเพื่อไทย โดยจะเสนอกฎหมายปรองดองและแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า ทางรัฐบาลก็เตรียมการรับมือเอาไว้ ในกรณีกฎหมายปรองดอง ความจริงก็คือกฎหมายนิรโทษกรรมนั่นเอง แต่วันนี้กฎหมายนิรโทษกรรมนั้นมันเห็นแล้วว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะกฎหมายฉบับนี้มีการเขียนนิรโทษกรรมการกระทำความผิดล่วงหน้าไปถึงวันที่ 5 พฤษภาคมด้วย ซึ่งก็สอดคล้องกับเหตุการณ์จลาจลที่เกิดขึ้นพอดี เพราะฉะนั้น กฎหมายฉบับนี้จึงถือว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะมีการเสนออีกต่อไป ส่วนจะมีการปรับปรุงอย่างไร ก็คงต้องคุยกันหลังจากนี้ว่า จำเป็นหรือไม่ แต่เบื้องต้นคิดว่าไม่เหลือความจำเป็นที่จะเสนอต่อ

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็เปิดเรื่องกรรมการปฏิรูปการเมืองไว้แล้วที่จะต้องมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ถ้าจำเป็นจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็สามารถให้ทุกฝ่ายเข้ามาพูดคุยกันได้ ตรงนี้รัฐบาลเปิดกว้าง

ในส่วนของการลงไปต่อสู้ใต้ดินประสานกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองในสภา ขณะนี้ทุกอย่างเปิดเผย และต้องเห็นว่าแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายที่เปิดเผยหรือซ่อนเร้นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องต่อสู้ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง ทางฝ่ายเราเองก็พร้อมที่จะใช้ข้อมูลข้อเท็จจริงตอบโต้กับข้อเท็จจากฝ่ายตรงข้าม

สำหรับการทำงานของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติหลังจากปรับปรุงใหม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า เป็นการปรับตัวภายใต้สถานการณ์อย่างแท้จริง เราจะปรับตัวจริงๆ ถึงวันที่ 15 คือวันนี้ หลังจากนั้นเราจะปรับอีกว่า การนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อที่จะทำให้เห็นว่าที่มาของความวุ่นวายในประเทศใครเป็นคนเกี่ยวข้อง คนคนนั้นทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศได้อย่างไร ก็คงต้องดำเนินการต่อ กับการเปิดโอกาสให้ความเห็นของแต่ละฝ่ายได้มีโอกาสเปิดเผยต่อสาธารณะมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น