“อิสสระ” โต้ข่าว “ปชป.สายอีสาน” เปิดศึกโค่นเก้าอี้ “วิฑูรย์” ยันไม่เป็นเด็กในคาถาของ “สุทัศน์” พร้อมแจงขณะเกิดเหตุสมาชิกพรรคร่วมใจถกหาทางแก้ปัญหา “ป๋องเน่า” เผยแปลกใจที่ได้รับการเสนอชื่อให้นั่งเก้าอี้ “รมว.พม.” ฮึ่มเตือน ขรก.ในกระทรวงต้องยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก-ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
วันนี้ (4 ก.พ.) นายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ยามเช้าริมเจ้าพระยา” ทางเอเอสทีวี ซึ่งมี น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ นส.กมลพร วรกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยกล่าวถึงกรณีที่ถูกทาบทามให้ดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ แทนนายวิฑูรย์ นามบุตร ว่าต้องขอยืนยันว่าไม่เคยคิดจะย้ายพรรค อื่น เพราะอยู่พรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด และเป็น ส.ส.มายาวนานถึง 7 สมัย ส่วนการที่ นายวิฑูรย์ลาออกจากตำแหน่งนั้น ไม่ได้เกิดจากการกระทำของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างแน่นอน
“ที่สำคัญผมไม่ใช่เด็กในคาถาของนายสุทัศน์ เงินหมื่น และไม่ได้เป็นโค่นเก้าอี้กันเองของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์สายอีสานอย่างแน่นอน โดยระหว่างเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนายสุทัศน์ และนายวิฑูรย์ รวมทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันประชุมปรึกษาหารือกัน ว่าจะการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร อีกทั้งผมยังแปลกใจว่ามีข่าวเรื่องผมทะเลาะกับ นายวิฑูรย์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายสุทัศน์ได้ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธข่าวที่เกิดขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง” นายอิสสระ กล่าว
นายอิสสระ กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน เพราะในขณะเกิดเหตุสมาชิกมีแต่ช่วยกันคิดว่าจะช่วยนายวิฑูรย์ได้อย่างไร โดยเฉพาะตนได้ช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงต่างๆ ต่อสื่อมวลชนมาโดยตลอด ประกอบกับตนไม่คาดคิดว่านายวิฑูรย์จะลาออกจากตำแหน่ง ที่สำคัญตนแปลกใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น รมว.พัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ แทนนายวิฑูรย์ เพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่เคยได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่จากในพรรคแต่อย่างใด แต่ที่ประชุมพรรคส่วนใหญ่ ต่างเห็นชอบให้ตำแหน่งดังกล่าวกับตน
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า ข้าราชการในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังฝักใฝ่ในระบอบทักษิณนั้น นายอิสสระ กล่าวว่า ตนคิดว่าข้าราชการที่ทำงานอยู่ในกระทรวงพัฒนาสังคมฯ คงจะยึดถือประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก ส่วนการจะไปยึดถือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ส่วนจะสามารถร่วมงานกับปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้หรือไม่นั้น คงต้องรอคุยกับปลัดเสียก่อน เพราะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว