“สาทิตย์” ลั่นพร้อมออนแอร์ผังใหม่ช่อง 11-ลบโลโก้ NBT 1 เม.ย.นี้ หลัง “ดิจิตอลมีเดียฯ” ขอยกเลิกสัญญา มีผล 1 มี.ค. เผยเตรียมให้นักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ร่วม 100 ชีวิต ผลิตข่าวแทน ยอมรับหนักใจตลอด 8 ปี นักข่าวช่อง 11 ไร้การพัฒนา ด้านรักษาการ ผอ.สถานีรับหน้าซื่อ คุณภาพนักข่าวสู้เอกชนไม่ได้
รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท ดิจิตอลมีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตรายการข่าวให้กับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีได้ทำหนังสือบอกเลิกการเป็นผู้ผลิตรายการข่าวประจำวันทางเอ็นบีทีแล้ว ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2552 เป็นต้นไป โดยกลุ่มผู้บริหารบริษัท ดิจิตอลมีเดียฯ ให้เหตุผลว่า นโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอข่าวของเอ็นบีทีให้เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาตินั้น ไม่มีความชัดเจนและกระทบต่อแผนโฆษณาของบริษัท จึงขอยกเลิกสัญญาเพื่อเปิดทางให้กรมประชาสัมพันธ์จัดหาบริษัทอื่นๆ เข้ามาร่วมทำรายการข่าวกับกรมประชาสัมพันธ์ต่อไป
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าบริษัท ดิจิตอลมีเดียได้ทำหนังสือบอกเลิกผลิตรายการข่าวช่อง 11 จริง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2552 โดยระหว่างนี้จะให้นักข่าวของกรมประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่ผลิตข่าวแทนจนกว่าจะมีบริษัทใหม่เข้ามาดำเนินการ
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า ต้องรอดูทิศทางของคณะกรรมการปฏิรูปสื่อภาครัฐว่าจะออกมาเป็นเช่นไร ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวแล้วมีนายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการเป็นประธาน ซึ่งมีเป้าหมายให้ช่อง 11 เป็นองค์กรมหาชน มีความเป็นอิสระจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมือง
รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้นายสาทิตย์เคยเจรจากับผู้บริหารของบริษัท ดิจิตอลมีเดีย หลายรอบ โดยแจ้งให้ทราบว่าจะไม่บอกเลิกสัญญาในทันที แต่ต้องการให้บริษัท ดิจิตอลมีเดียฯ ปรับทิศทางในการนำเสนอข่าวให้กลับสู่ความเป็นวิชาชีพสื่อมวลชน เนื่องจากเห็นว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่การรายงานข่าวของเอ็นบีทียังคงมีลักษณะการรายงานข่าวเช่นเดิม
ทั้งนี้ บริษัท ดิจิตอลมีเดีย โฮลดิ้งฯ เคยมีข่าวคราวในขั้นตอนการทำสัญญาจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ผูกขาดการผลิตรายการข่าวในสมัยที่นายจักรภพ เพ็ญแข เข้ามาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ช่วงต้นรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และเปลี่ยนสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เป็น เอ็นบีที
นายสาทิตย์ เปิดเผยเพิ่มเติมในรายการ “ยามเช้าริมเจ้าพระยา” ทางเอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน เมื่อเช้าวันที่ 16 ก.พ.ว่า การปรับผังรายการของเอ็นบีทีได้เริ่มมาตั้งแต่ 3 สัปดาห์ก่อนแล้ว ซึ่งการบอกยกเลิกสัญญาของบริษัท ดิจิตอลมีเดียฯ อาจเป็นเพราะว่าตนออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องการอยากให้รายการข่าวของเอ็นบีทีมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับผังรายการของเอ็นบีทีจะแล้วเสร็จและเริ่มออกอากาศตามผังรายการใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552 เป็นต้นไป พร้อมกับการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ซึ่งกำลังมีการจัดประกวดด้วย ส่วนชื่อใหม่จะเป็นชื่ออะไรนั้น ต้องรอผลการประกวดอีกที
นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า บริษัท ดิจิตอลมีเดียฯ มีสัญญาในการผลิตรายการข่าวกับเอ็นบีทีทั้งสิ้นวันละ 9 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากบริษัทบอกเลิกสัญญาแล้ว จะใช้นักข่าวของ กรมประชาสัมพันธ์ ทำการผลิตข่าวแทน
อย่างไรก็ตาม นายสาทิตย์เปิดเผยว่า เคยถามนายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการผู้อำนวยการเอ็นบีทีว่า นักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ที่มีทีมงานอยู่ประมาณ 100 คน สามารถผลิตข่าวได้เท่ากับที่เอกชนผลิตหรือไม่ ซึ่งนายสุริยงค์บอกว่าไม่สามารถทำได้ จึงเป็นปัญหาอย่างยิ่ง เนื่องจากตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีการพัฒนานักข่าวเหล่านี้เลย ขณะที่ต้องจ่ายเงินเดือนรวมกันประมาณเดือนละ 1 ล้านกว่าบาท นอกจากนี้ ช่อง 11 ยังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะมีแต่ถูกใช้ให้ถ่ายทอดสดงานของหน่วยงานต่างๆ แต่หลายแห่งไม่ยอมจ่ายเงิน มีแต่ใช้งานอย่างเดียว