คณะรัฐมนตรีประกาศให้ 16-17 เม.ย.เป็นวันหยุดราชการเพิ่ม หลังต้องเผชิญเหตุจลาจลสะเทือนอารมณ์ตลอดช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ระบุเพื่อความปลอดภัยและบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายปณิธาน วัฒนายากร ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (14 เม.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐมนตรี ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ อ่านประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับล่าสุด ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว มีความเห็นว่า เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนโดยรวม และเพื่อบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้วันที่ 16-17 เม.ย.52 เป็นวันหยุดราชการ
นายปณิธานกล่าวต่อว่า ส่วนรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน ภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศ และกระทรวงแรงงาน พิจารณาตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับกฎหมายต่อไป โดยในกรณีหน่วยงานใดเป็นหน่วยงานบริการประชาชน มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือราชการสำคัญ ในวันดังกล่าว โดยกำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว หากยกเลิกหรือเลื่อนไป จะเกิดความเสียหาย หรือเกิดผลกระทบต่อประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยราชการนั้นๆ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและประชาชน
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกองทัพบก กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ทีวีไทยว่า แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลและตรึงกำลังไว้ได้แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องตรึงกำลังไว้ตามจุดต่างๆ ภายในเขต กทม. โดยจะมีการจัดสรรกำลังใหม่ ระหว่างทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกทม.เพื่อตั้งจุดสกัด รวมถึงหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ภายในเขต กทม.ทั้ง 50 เขต เพื่อสอดส่องดูแลและป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นภายในคืนนี้
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังแยกผู้ชุมนุมออกเป็น 2 กลุ่ม 1.ผู้ที่มาชุมนุมโดยสงบและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น 2.ผู้ที่สันนิษฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง โดยคนกลุ่มแรกจะปล่อยกลับบ้าน แต่คนกลุ่มที่สองจะถูกควบคุมตัวไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นที่ใด ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานนั้น ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ยืนยันว่าดำเนินการไว้หมดแล้ว ส่วนปัญหาเรื่องข้อกฎหมายนั้น กำลังหารือกันว่าจะใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือกฎหมายปกติ
โฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า จะเร่งเปิดการจราจรในส่วนที่เหลืออยู่ให้เร็วที่สุด โดยขณะนี้เหลือจุดที่เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรอยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น อาทิ แยกอุรุพงษ์ ถนนมิตรไมตรี ฯลฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายปณิธาน วัฒนายากร ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (14 เม.ย.) นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐมนตรี ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ อ่านประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับล่าสุด ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว มีความเห็นว่า เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนโดยรวม และเพื่อบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้วันที่ 16-17 เม.ย.52 เป็นวันหยุดราชการ
นายปณิธานกล่าวต่อว่า ส่วนรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน ภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศ และกระทรวงแรงงาน พิจารณาตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับกฎหมายต่อไป โดยในกรณีหน่วยงานใดเป็นหน่วยงานบริการประชาชน มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือราชการสำคัญ ในวันดังกล่าว โดยกำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว หากยกเลิกหรือเลื่อนไป จะเกิดความเสียหาย หรือเกิดผลกระทบต่อประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยราชการนั้นๆ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและประชาชน
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกองทัพบก กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ทีวีไทยว่า แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถสลายการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลและตรึงกำลังไว้ได้แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องตรึงกำลังไว้ตามจุดต่างๆ ภายในเขต กทม. โดยจะมีการจัดสรรกำลังใหม่ ระหว่างทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกทม.เพื่อตั้งจุดสกัด รวมถึงหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ภายในเขต กทม.ทั้ง 50 เขต เพื่อสอดส่องดูแลและป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นภายในคืนนี้
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ชุมนุมนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังแยกผู้ชุมนุมออกเป็น 2 กลุ่ม 1.ผู้ที่มาชุมนุมโดยสงบและไม่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น 2.ผู้ที่สันนิษฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง โดยคนกลุ่มแรกจะปล่อยกลับบ้าน แต่คนกลุ่มที่สองจะถูกควบคุมตัวไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นที่ใด ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานนั้น ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ยืนยันว่าดำเนินการไว้หมดแล้ว ส่วนปัญหาเรื่องข้อกฎหมายนั้น กำลังหารือกันว่าจะใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือกฎหมายปกติ
โฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า จะเร่งเปิดการจราจรในส่วนที่เหลืออยู่ให้เร็วที่สุด โดยขณะนี้เหลือจุดที่เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรอยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น อาทิ แยกอุรุพงษ์ ถนนมิตรไมตรี ฯลฯ
