xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลขอบคุณผู้ชุมนุม-ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือแก้ไขสถานการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปณิธาน วัฒนายากร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงทางรวมการเฉพาะกิจแห่งแห่งประเทศไทย เพื่อรายงานสถานการณ์การชุมนุมประจำวันที่ 14 เมษายน 2552 ระบุว่า ในวันนี้สถานการณ์การชุมนุมคลี่คลายลงไปมาก โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีการยกเลิกการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นผลจากการที่นายกรัฐมนตรีได้ขอร้องให้ผู้ที่มาชุมนุมมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ที่มีการชุมนุมทั่วไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอร้องให้ประชาชนที่มาชุมนุมมีส่วนร่วมและเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ โดยการเดินทางกลับภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อที่จะเป็นส่วนสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ต่างก็เห็นด้วยและได้ทยอยเดินทางกลับตั้งแต่เมื่อคืน ขณะที่รัฐบาลเองก็ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ร่วมชุมนุม ด้วยการจัดยานพาหนะส่งผู้ร่วมชุมนุมกลับภูมิลำเนาเดิม ซึ่งจนถึงขณะนี้ส่วนใหญ่ได้พบกับพี่น้อง ครอบครัว สมาชิก ที่ภูมิลำเนาเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รัฐบาลจึงขอขอบคุณผู้เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ จากการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับวันนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ชุมนุมบางส่วนปักหลักชุมนุมอยู่ในบางพื้นที่ แต่ก็ได้คลี่คลายไปตามลำดับแล้ว
ทั้งนี้ บริเวณผ่านฟ้า แยกเจษฎาบดินทร์ การชุมนุมได้ยุติลงแล้ว เช่นเดียวกับบริเวณแยกวังแดงก็ยุติแล้วเช่นกัน จะมีการชุมนุมอยู่บ้างในบางพื้นที่ แต่ในขณะนี้ได้มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปดูแลสถานการณ์และควบคุมความสงบเรียบร้อย
นายปณิธาน กล่าวเรียกร้องขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากในการที่จะเข้าไปควบคุมดูแลสถานการณ์ด้วยมาตรการที่เคร่งครัด ยุติธรรม เป็นธรรม โปร่งใส โดยเฉพาะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือน รัฐบาลได้กำชับอยู่เสมอให้ปฏิบัติด้วยความเป็นธรรม ยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามหลักสากล และจำเป็นที่จะต้องพึงระวังไม่ให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิพื้นฐานของประชาชนมาก
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะต้องมีการกระทบกระเทือนต่อสิทธิฯ บ้าง แต่ทุกอย่างจะชี้แจงได้ โปร่งใส และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายไปตามลำดับแล้ว ความจำเป็นในการใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินก็จะลดน้อยลง และหากสถานการณ์ยุติลง ความจำเป็นก็จะไม่มี
ทั้งนี้ กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ได้มีการประเมินสถานกาณ์อย่างน่อเนื่อง และมีการรายงานสถานการณ์ให้กับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้เดินทางกลับ สามารถแจ้งความจำนงค์ได้ โดยคณะรัฐมนตรีวันนี้มีมติให้มีวันหยุดราชการเพิ่มเติม คือวันที่ 16 และ 17 เมษายน ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนทั่วไปเพิ่มมากขึ้น เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว พร้อมๆ กับการบูรณะและฟื้นฟูพื้นที่ที่มีสถานการณ์ไม่สงบ เพื่อที่จะให้โอกาสเจ้าหน้าที่เข้าไปจัดระเบียบ จัดระเบียบพื้นที่เหล่านั้น เมื่อเปิดมาจากการหยุดต่อเนื่องนานถึง 8 วันครั้งนี้ บ้านเมืองจะได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีวันหยุดติดต่อกันนานหลายวัน รัฐบาลจึงมีนโยบายให้กับหน่วยราชการที่บริการประชาชน คงเจ้าหน้าที่บางส่วนไว้ เพื่อที่จะบริการประชาชนไม่ให้มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมกับราชการ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานบริการประชาชนทั้งหลาย จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสม พร้อมกับพิจารณาในเรื่องการบริการให้สอดคล้องกับข้อบังคับและระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อที่จะบริการประชาชนในวันหยุดเหล่านี้ โดยไม่ให้กระทบกระเทือนต่อประชาชน
นอกจากนั้น วันหยุดของทางราชการที่เพิ่มขึ้นอีก 2 วัน สำหรับภาคเอกชน ธนาคาร รัฐวิสาหกิจนั้น จะมีระเบียบของตนเองในการพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าจะหยุดหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับขั้นตอน กระบวนการ ข้อบังคับ กฎหมายต่างๆ ของเอกชน ของรัฐวิสาหกิจ และของธนาคาร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีความยินดีที่จะแจ้งให้ประชาชนรับทราบ
ทั้งนี้ กอฉ.จะได้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับความสงบความเรียบร้อยเป็นระยะๆ และเข้าใจว่าอีกไม่ช้านายกรัฐมนตรีจะมีโอกาสได้มาพบปะกับประชาชน เพื่อแจ้ง เพื่อรายงาน เพื่อพบกับประชาชน และขอบคุณประชาชน ที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในครั้งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น